attack on titan เหยื่อวาทกรรม
attack on titan เหยื่อผู้ประโคมรรม…ตัวร้ายในสายตาชาวโลกความขมขื่นและความเศร้าโศกรุมเร้าให้หนุ่มน้อยผู้มีประณิธานจะฆ่า ไททันให้หมดโลกเปลี่ยนเป้าหมายไปฆ่าคนทั่วทั้งโลกที่มองเห็น ‘พวกเขา’ เป็นผีแทน นั่นก็เนื่องจากว่าเอเรนยังมีความรู้สึกว่าเขามีคนสำคัญที่ยังต้องการจะคุ้มครองให้ถึงที่สุด “ภายหลังที่ฉันตาย เจ้าพวกนั้น (เพื่อนของเอเรน) ก็จะต้องมีชีวิตถัดไป ฉันอยากให้มีชีวิตถัดไป ดูการ์ตูน attack on titan คลิก ต้องการให้มีชีวิตอย่างมีความสุข…”
วาทกรรม ‘ลูกหลานซาตาน’
หลังจากที่ทราบว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่อีกฟากฝั่งของสมุทร พสกนิกรบนเกาะพาราดี้ก็กลายเป็นจำเลยสังคมในทันที นอกเหนือจากที่จะถูกรัฐบาลของเกาะพาราดี้ปิดบังความจริงมาหลายร้อยปี ยังถูกคนทั่วโลกมองด้วยสายตาเกลียด
รวมทั้งอาฆาตแค้น ทั้งปวงก็เป็นเพราะว่าการเขียนประวัติศาสตร์ของเมอเร่ที่อ้างความยุติธรรมจากที่ตนเคยถูกข่มเหง หันกลับมากดขี่ชาวเอลเดียบ้างในจุดนี้ราษฎรบนเกาะพาราดี้ต่างมองว่าไม่แฟร์ แต่ด้วยวาทกรรม ‘ลูกหลานซาตาน’ ที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกลดทอนคุณประโยชน์ความเป็นคนของชาวเอลเดีย ทำให้เกิดสถานกักกันชาวเอลเดียบนแผ่นดินใหญ่
รวมทั้งมีการลงทัณฑ์ชาวเอลเดียด้วยการนำพวกเขามาปลดปล่อยที่เกาะพาราดี้ ก่อนจะฉีดน้ำไขสันหลังให้พวกเขาเปลี่ยนร่างเป็นไททันวิ่งเล่นอยู่นอกกำแพง เมื่อยามที่กำแพงพัง พลเมืองก็จำเป็นต้องรับเคราะห์ไปเรื่อยโดยที่ไม่รู้จักว่าเพราะอะไรตนเองถึงถูกฆาตกรรมความศรัทธาที่ฝังลึกทั้งจากผู้ประโคมรรมและก็โฆษณาชวนเชื่อ ทำให้แม้แต่ชาวเอลเดียบนแผ่นดินใหญ่ก็ยังมีทัศนคติด้านลบต่อชาวเอลเดียด้วยกัน
พวกเขาหลายคนแปลงเป็นอาวุธการทำศึกอย่างเต็มใจ ในเวลาที่หลายท่านยอมถูกบังคับเพื่อชดเชยสิ่งที่ ‘ตัวเองมิได้ทำ’ แต่ ‘บรรพบุรุษทำ’ในที่สุดเสียงของชาวเอลเดียก็หายไปจากสังคม เนื่องจากว่าการไม่ให้โอกาสทำความเข้าใจกันและกัน ด้วยเห็นว่าอีกข้างไม่ใช่มนุษย์อย่างเสมอภาค เรียกได้ว่าชาวเอลเดียไม่เหลือลู่ทางมากสักเท่าไรนัก ส่วนเอเรนก็เป็นเพียงแค่มนุษย์อีกผู้ที่ได้ผลสำเร็จลัพธ์ของการเช็ดกโลกรังควาน
ในวันนี้เขาจึงเลือกจะรังแกโลกกลับบ้างแต่ไม่ว่าบทสรุปของเรื่องผ่าโลกไททันจะเป็นยังไง เรื่องราวก่อนหน้านี้ของอาจารย์ฮาจิเมะก็ได้สะท้อนใจความสำคัญชีวิตและมิติทางการเมืองไว้อย่างแหลมคม รวมไปถึงการสะกิดนักอ่านให้มองดูไปถึงปัญหาเชิงโครงสร้างมากกว่าหยุดเพียงแต่ระดับเฉพาะตนเหมือนกันกับที่พวกเราอุตสาหะวินิจฉัยว่าเอเรนเป็นผู้แสดงนำชายหรือคนร้าย แต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร พวกเราก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจเพราะเพราะเหตุใดเขาถึงควรเป็นแบบนั้น
เจาะลึกพลังที่ไททัน
Attack on Titan มังงะสุดเข้มข้นที่อาจแปลงมุมมองต่อสังคมการบ้านการเมืองของทุกคนที่อ่าน “หากไม่สู้ ก็แพ้” ตรวจประเด็นการเมืองและการตามหาอิสรภาพในโลกของ At tack on Ti tan เจาะลึกพลังที่ไททัน : เข้าใจความหมายของพลังและก็อำนาจที่เหล่ายักษ์ถือครองจากเรื่องเล่า สู่การรบ : ผลพวงของ propaganda ที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความรังเกียจอันไม่สิ้นสุดคนใดคือเหยื่อ คนใดกันคือโจร?
มองเรื่องโศกเศร้าการทำศึกไททันผ่านสายตา ‘เอเรน’ แล้วก็ ‘กาบิ’รู้เรื่องตัวตน ‘ไรเนอร์ บราวน์’ ทหารผู้ซ่อนภาระที่หนักแล้วก็ความรู้สึกว่าตัวเองผิดเอาไว้ภายในดวงใจอำนาจ ชนชั้น หน่วยตรวจ และก็เสรีภาพ : เกี่ยวกับการเมืองเบื้องหลังกำแพงของ Attack on Titan[br]‘กาบิ’ และ ‘ฟัลเก๋’ เหรียญสองด้านของคนรุ่นหลัง
คำตอบที่แตกต่างกันของการปลูกฝังเดียวกันจากราชาฟริตซ์ ถึงเอเรน เยเกอร์ : ว่าด้วยวีรบุรุษรวมทั้งลัทธิบูชาตัวบุคคลใน Attack on Titanตำนานบทนี้จะจบลงอย่างไร? วิเคราะห์ทฤษฎีตอนจบ At tack on Ti tan เมื่อเรื่องใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเจาะลึก ‘เครือญาติเอเคอร์แมน’ ไททันในร่างมนุษย์ ข้ารับใช้ผู้ไม่คดโกงของเชื้อสายยูมีร์ความขุ่นมัวของจริยธรรมและก็พฤติกรรมที่ยากจะวินิจฉัย คุยส่งท้าย At tack on Ti tan ซีซันปัจจุบัน
เป็นเรื่องเกี่ยวกับยักษ์ที่ล่ารวมทั้งกินมนุษย์ โดยเรียกกันว่า “ไททัน” มวลมนุษยชาติที่หลงเหลือจากการไล่ล่าได้แอบอยู่ที่เมืองเบื้องหลังกำแพง หลีกลี้จากโลกด้านนอกอันเหี้ยมโหดซึ่งเต็มไปด้วย “ไททัน”ด้วยบรรยากาศดุเดือดแล้วก็ร้ายกาจสไตล์ดิสโทเปียชื่นชอบชาวฮาร์ดคอร์ ทำให้ซีรี่ย์นี้เป็นเลิศในการ์ตูนที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเรื่องหนึ่งรวมทั้งมีแฟนๆอยู่ทั้งโลก
โดยมียอดขายมากกว่า 72 ล้านเล่มในปี 2017 และได้รับการแปลเป็นหลายภาษาแล้วก็ภาษาอังกฤษภาษาจีนกลางและก็ภาษาเยอรมัน ถัดมาจึงได้สร้างเป็นอนิเมะซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงด้วย ถึงแม้ว่ากระแสตอบรับฉบับคนแสดงจะไม่ค่อยดีนักก็ตามและถึงเวลา่ที่พวกเราจะไปรู้ที่มาของไอเดียและก็แนวคิดต่างๆข้างในเรื่องราวของเขากันได้แล้วเคยปฎิเสธคำ
การ์ตูนมังงะในประเทศญี่ปุ่น
แนะนำจากสำนักพิมพ์ Jump มาก่อน ก่อนที่อาจารย์ Hajime Isayama จะได้แจ้งเกิดแล้วก็เป็นที่มีชื่อเสียงกัน เขาเคยได้เสนอผลงานให้กับ Weekly Shōnen Jump ที่ Shueisha ซึ่งเขาได้รับข้อเสนอแนะให้ปรับเปลี่ยนสไตล์งานและก็เรื่องราวของเขาให้เหมาะสมกับค่าย Jump มากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าเรื่องของอาจารย์ Hajime Isayama มีความเถื่อน
รวมทั้งความรุนแรงอยู่ไม่น้อยเพราะเหตุว่าเหตุนั้นก็เลยทำให้เขาปฏิเสธข้อเสนอแนะของสถานที่พิมพ์ Jump และตัดสินใจเลือกติดต่อกับทางแมกกาซีนรายสัปดาห์ Shōnen ที่ Kodansha แทน ก่อนจะพิมพ์ในปี 2009เคยคิดจะเลิกความฝันการเป็นนักวาดว่ากันว่าการนำต้นฉบับงานไปเสนอสถานที่พิมพ์บางทีอาจเป็นปัญหาใหญ่ระดับต้นๆเลย
เหตุเพราะตลาดการ์ตูนมังงะในประเทศญี่ปุ่นมีการขันแข็งที่สูงมากสำหรับในการสัมภาษณ์กับทาง BBC คุณครู Isayama ได้เปิดเผยว่าเขาเกือบยอมล้มเลิกความฝันสำหรับการเป็นนักวาดการ์ตูน ภายหลังที่จำต้องดิ้นรนโดยนำผลงานการ์ตูนฉบับ One-Shot (ซึ่งก็คือการ์ตูนที่เขียนออกมาเพียงแค่ตอนเดียว เป็นไอเดียเริ่มต้นของการเขียนเป็นซีรีย์ยาว) ไปเสนอสำนักพิมพ์การ์ตูน
โดยที่ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนไหนรับผลงานของเขาไปพิมพ์ เนื่องแต่ลายเส้นที่บางทีอาจมองไม่สวยและรายละเอียดที่รุนแรง แต่ด้วยเหตุว่าแฟนคลับที่ติดตามผลงานผ่านทางช่องทางออนไลน์รอให้กำลังใจแล้วก็สนับสนุนเขา ทำให้เขาไม่ยอมทิ้งความฝันจนได้มีผลงานที่มีชื่อเสียงกันในตอนนี้ถูกลูกค้าคนหนึ่งที่อินเตอร์เน็ตคาเฟ่หาเรื่อง!!!
แรงผลักดันมักเป็นผลมาจากประสบการณ์ต่างๆในชีวิตพวกเรา ซึ่งแรงจูงใจในการสร้างยักษ์ไททัน อาจฟังดูแปลกๆอยู่บ้างโดยช่วงนั้นอาจารย์ Isayama มักจะทำงานในตอนกลางคืนที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่งในเมืองโตเกียว ซึ่งจู่ๆลูกค้าไม่คุ้นเคยคนหนึ่งกำลังอยู่ในอาการเมาเหล้าเข้ามาดึงคอเสื้อเขา “ผมรู้สึกกลัวที่จะเจอผู้ที่ผมไม่สามารถติดต่อเสวนากันด้วยได้”
อาจารย์ Isayama บอกในบทสัมภาษณ์ซึ่งภายหลังจากเรื่องราวเองก็เปลี่ยนเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เขาได้นำความรู้สึกกลัวและก็ความรู้สึกหนักใจจากเหตุนั้นไปใช้กับ ไททัน กับสัตว์ประหลาดยักษ์ที่จะทำร้ายเราและไม่สามารถสื่อสารกันให้เข้าใจได้มีฉากที่ได้แบบมาจากบ้านเกิดแม้ว่าการ์ตูนหัวข้อนี้ Setting และก็บรรยากาศจะออกไปทางเยอรมันตามพล็อตเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นฉาก
เพลงประกอบที่มีภาษาเยอรมัน หรือชื่อตัวละครหลวงเรื่อง แต่ที่จริงแล้วฉากต่างๆในการ์ตูนส่วนหนึ่งนั้นมาจากญี่ปุ่น จังหวัด Oyama เมือง Hita นั้นก็คือบ้านเกิดของคุณครู Isayama เองโดยเขาเคยได้กล่าวกับสื่อว่า เขาใช้ภูมิลำเนาของเขา ซึ่งตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มล้อมรอบด้วยเทือกเขารวมทั้งมีเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่เป็นแรงดลใจในการออกแบบฉากกำแพงเมืองขนาดใหญ่ด้านในเรื่อง
ศิลป์การต่อสู้แบบมวยไทย
มีนักมวยประเทศญี่ปุ่นเป็นต้นแบบไททันให้กับผู้แสดงตัวหนึ่ง ในการให้สัมภาษณ์กับ MTV คุณครู Isayama นั้นใช้นักมวยประเทศญี่ปุ่นชื่อ Yūshin Okami เป็นต้นแบบของ Eren Yeager ตัวละครที่เป็นตัวละครเอกของเรื่องในร่างไททัน โดยวางแบบร่างกายในลักษณะของนักมวยรุ่นมิดเดิ้ลเวท ซึ่งเขาเพียงนำลักษณะร่างกายของนักมวยคนนั้นเป็นแบบอย่างแค่นั้นมีศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทยการ์ตูนประเด็นนี้มีฉากต่อสู้ดวลหมัดมวยอยู่
ซึ่งในเรื่องนี้จะมีการใช้ศิลปะการต่อสู้อยู่หลายแขนง ได้แก จูโด บราซิลเลียน ชาวยิวยิตสู แซมบ้า มวยปล้ำ และก็มวยไทย โดยมีไททันคนหนึ่งใช้ศิลป์การต่อสู้แบบมวยไทย นั้นก็คือ Annie Leonhart ซึ่งก็ไม่น่าแปลกเพราะเหตุว่าด้วยความที่คุณครู Hajime Isayama นั้นเป็นผู้ที่ประทับใจรายการมวยชนิด MMA (Mixed martial art หรือ ศิลปะการต่อสู้แบบผสม) เป็นการขยันมวยบนสังเวียนแบบอย่างหนึ่งยอดนิยม
อีกทั้ง คุณครู Hajime Isayama เขาก็ยังเป็นคนชอบเล่นเกมส์ต่อสู้อีกด้วย Sasha Blouse เคยตั้งอกตั้งใจจะออกแบบให้ตายมาก่อนในช่วงต้นเรื่อง Sasha Blouse เรียกกันตลกๆว่าสาวมันฝรั่งที่เป็นสมญานามของคุณ คุณเป็นตัวละครที่มีความบ้าแล้วก็คลั่งไคล้ในอาหารการกินมากเป็นพิเศษ
ซึ่งก่อนหน้านั้นแล้วอาจารย์ Isayama นั้นเคยว่างแผนที่จะให้เธอตายในเรื่องมาก่อนตามแผนที่คุณครู Isayama วางไว้ว่าจะทำบทให้ Sasha Blouse ตายในหนังสือมังงะเล่มที่ 9 ซึ่งภายหลังที่บรรณาธิการ ของอาจารย์ได้อ่านสตอรี่บอร์ดเข้า ทำให้ถึงกับเขาเข้าไปร้องไห้ในห้องอาบน้ำ ด้วยเหตุว่ามีความรู้สึกว่ามันร้ายกาจเกินความจำเป็น ก็เลยทำให้คุณครู Isayama ตัดสินใจที่จะเขียนสตอรี่บอร์ดเวลานี้ใหม่เพื่อไว้ชีวิตคุณ
ถึงถือว่าเป็นเรื่องโชคดีสำหรับแฟนๆของคุณจริงๆคุณครู Isayama นั้นตั้งใจดีไซน์ให้คุณเป็นตัวละครที่ขำขันให้กับซีรีส์ โดยชื่อ Sasha นั้นได้มาจากดาราตลก Sacha Baron Cohen ซึ่งเป็นที่รู้จักในผลงานเรื่อง The Dictator ที่เขาเป็นโปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบทและดาราหนังในรูปภาพยนตร์ รวมทั้งแสดงภาพยนตร์เรื่อง Alice Through the Looking Glass
ซึ่งเล่นบทเป็น Timeเคยวางแผนให้เรื่องจบไม่สวยในตอนเดือนกันยายนของปี 2013 อาจารย์ Isayama เคยตั้งใจที่จะจบซีรีส์ At tack on Ti tan เพียงแต่ 20 เล่มซึ่งในก่อนหน้านั้นอาจารย์ Isayama เคยตั้งมั่นที่จะให้การ์ตูนประเด็นนี้จบแบบไม่สวยนัก ซึ่งก็จะคล้ายๆกับภาพยนตร์ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงจากหนังสือของ Stephen King เรื่อง The Mist
ซึ่งเกิดเรื่องที่เกี่ยวกับสับแปลกที่มาพร้อมกับหมอกดกออกล่ามนุษย์อยู่ในรูปภาพยนต์เรื่องนั้นและตัวละครในประเด็นนั้นตายหมด แต่ด้วยกระแสตอบรับที่ดีอีกทั้งผลงานการ์ตูนมังงะรวมทั้งแอนิเมะของเขา ทำให้คุณครู Isayama ตกลงใจแปลงการวางตอนสุดท้ายของเรื่อง เพราะบางทีอาจสร้างผลกระทบกับแฟนๆที่จะทำให้แฟนๆของเขาผิดหวังได้ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องโชคดีสำหรับแฟนคลับที่ติดตามผลงานของอาจารย์ต่อไปได้เคยครอสโอเวอร์ระหว่างการ์ตูนค่าย Marvel
