doomovie หนังออนไลน์HD ดูได้ทั้งวัน ซีรี่ย์มากมาย ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์เกาหลี

doomovie

doomovie ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ หนังชนโรง พากษ์ไทย ดูฟรีเต็มเรื่อง

doomovie หัวใจฟูสตอปรี่หนังรักที่มีรายละเอียดแบบเรื่องสั้นจบในตอน ซึ่งแทรกเอาไว้ในภาพยนตร์ปริมาณยาวอีกครั้ง โดยเรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ ‘โดดเดี่ยว’ (แสดงโดย พีช-พชร จิราธิวัฒน์) คนเขียนบทภาพยนตร์ผู้กำลังเดินทางมาเฝ้าแม่ที่ไม่สบาย จำเป็นต้องปั่นบทหนังให้ทันก่อนที่จะถึงเดดไลน์ ในระหว่างนั้นเขาได้ทราบจะกับ ‘บัว’ (แสดงโดย ไม่นนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร)คุณครูสอนเปียโนที่มาเฝ้าคนป่วยที่โรงหมอ โดดเดี่ยวก็เลยให้บัวได้มองบทหนังหวานใจที่เขาเขียนขึ้น และก็เรื่องราวในขณะที่ 1 ‘คนที่ไม่รู้จัก’ ก็เลยเริ่มขึ้นนับจากนั้น ถัดมาเป็นเรื่องราวในเวลาที่ 2 ‘คนตรงกันข้าม’ เล่าถึงวัยรุ่นในคอนโดคู่หนึ่งที่รู้จักกันแบบ Social distancing กระทั่งปรับปรุงความข้องเกี่ยวไปถึงจุดที่กลับตัวกลับใจมิได้

รวมทั้งในเวลาที่ 3 เรื่อง ‘คนข้างบ้าน’ ที่บอกเล่าเรื่องราวปั๊บปีเลิฟของคู่วัยรุ่นมัธยม ซึ่งเล่าถึงความแตกต่างในระยะความเกี่ยวเนื่อง แล้วหลังจากนั้นก็มาถึงในขณะที่ 4 ‘ผู้ที่ชัง’ ซึ่งเกิดเรื่องราวของชายหนุ่มเดลิเวอรีที่บังเอิญพบว่า คู่ปรับที่ซิ่งกับเขาอยู่เป็นประจำก็คือสาวลึกลับที่รู้จักตัวตนเขาทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งตอนสุดท้ายอย่าง ‘คนแอบรัก’ เกิดเรื่องราวของชายหนุ่มร้านค้าสบายซื้อที่แอบรักพยาบาล แม้กระนั้นอนิจจังคุณดันมีบุคคลที่ชอบแล้วซะงั้น โดยรักยุ่งๆอีกทั้ง 5 ประเด็นนี้ก็ร้อยเรียงกัน

คนจิตใจฟีบที่ต้องการกลับมาจิตใจฟูเรื่องราวของคน “ดวงใจฟีบ” ที่จะต้องให้ความรักช่วยแก้ให้ “หัวใจฟู” กับความรักสุดฟิน สุดฟู ของ 5 คู่วัยรุ่น ผ่านการเล่าเรื่องของผู้เขียนบทชายหนุ่ม รวมทั้ง สาวพยาบาล ที่อยู่หน้าห้องเดียวกัน โดยมีรัก 5 เรื่องสลับกันเล่าราว ที่น่ารักน่าเอ็นดู น่าฉงน ผสมกันไป ก็อย่างที่เกริ่นไว้หนังจะเบาๆเล่าราวความรักแต่ละเรื่อง ที่มิได้เชื่อมโยงกันอะไรเท่าใด แต่เชื่อมโยงร้อยเรียงออกมาเป็นโทนรักที่มีเป้าหมายเดียวกัน

นี่เป็นผลงานเรื่องปัจจุบันของผู้กำกับจิตใจเบิกบาน “พฤกษ์ เอมะรุจิ” ผู้ซึ่งเคยบรรลุเป้าหมายอย่างปังสุดๆมาจาก อีเรียมซิ่ง ที่ได้ผลงานเรื่องที่แล้ว กลับมาในครั้งนี้เสมือนปรับเป็นคนโหมดกันอย่างยิ่งจริงๆ เพราะว่าเขาจำต้องลดดีกรีความฮาแบบรุนแรงลงไปหลายดีกรี รวมทั้งป้ายความผิดกระจายในรักเข้าไปแทนแบบจำนวนมากรวมทั้งได้พิสูจน์ให้มองเห็นแล้วว่า doo movie ผู้กำกับรายนี้ก็สามารถผลิตแล้วก็ทอดสร้างภาพยนตร์รักออกมาได้โอกาสที่กลมกล่อมละมุนละไมใช้ได้อยู่นะ

อย่างที่บอกไว้ที่จั่วหัวของรีวิวหนังประเด็นนี้เลยว่า หัวใจฟู..สตอปรี่ เป็นหนังรักที่พล็อตมาแบบง่ายมากมายๆแบบสูตรสำเร็จจับวางเป็นจุดๆที่เกือบจะใส่ความแปลกใหม่อะไรมิได้เลย เค้าเรื่องแม้กระนั้นส่วนประกอบก็ไม่ใช่อะไรที่เกินคาดทายใจ เป็นลูบคลำทางถูกตั้งแต่เปิดเรื่องแต่ว่าเรื่องมาได้ไม่กี่ซีน แม้กระนั้นบนความที่ไม่มีความแปลกใหม่เล่านั้น กลายเป็นเสน่ห์ที่ช่วยหนุนหนังประเด็นนี้ไปได้ตลอดทาง รายละเอียดที่ย่อยง่ายดายๆสื่อตรงไปถึงผู้ชม ทำให้ตอน 2-3 เรื่องแรกของหนังนั้น ผูกหัวใจผู้ชมเอาไว้ได้ออกจะอยู่มือ

ถึงแม้ส่วนประกอบของบทหนังในแต่ละองก์นั้น จะค่อนข้างจะปวกเปียกตามสไตล์พล็อตของภาพยนตร์ไทย ที่ออกจะซ้ำจากจำเจและก็แบนไม่ค่อยมองเห็นแกนมิติเท่าใด แต่ว่าจังหวะรวมทั้งวางแบบที่ จิตใจฟู..สตอปรี่ เอามาร้อยเรียงเล่าเป็นแบบนี้ต่างหาก ที่แปลงเป็นลูกเล่นที่ช่วยเกื้อหนุนหนังทั้งยังเรื่องเอาได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ และก็เป็นภาพยนตร์ไทยที่มิได้ให้ความรู้ความเข้าใจสึกมองไปแบบทรมาทรกรรม แต่รู้สึกอิ่มเอมหัวใจไปกับเรื่องรักในแต่ละจังหวะทำนอง

องค์ปรกอบของหนังดีเยี่ยมหนังมีส่วนประกอบศิลปที่งามมากมายๆเนื่องจากพร็อพประกอบแล้วก็การจัดฉากในเรื่อง ถูกบรรจงประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างประณีต ซึ่งส่วนประกอบศิลปที่ดีจะก่อให้จะก่อให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับหนังได้มากขึ้น ดังเช่น ในตอนคนตรงกันข้าม นางเอกจำต้องกักบริเวณอยู่ด้านในห้อง พวกเราจะมองเห็นได้ว่าผู้แสดงมีการสวมเสื้อเก่าๆเพราะว่ามิได้ออกไปไหน

 

doomovie

 

ซึ่งทำให้พวกเรารู้เรื่องเลยว่ากลุ่มอาร์ตหัวข้อนี้ตั้งใจถึงความเหมือนจริงอย่างดีเยี่ยม หรือจะเป็นตอน คนข้างบ้าน ที่ให้พระเอกตัดผมรองทรง ซึ่งเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่เอาใจใส่ถึงดีเทลทรงผมจริงๆของผู้เรียน โดยส่วนประกอบเล็กๆกลุ่มนี้ ผ่านการคิดมาให้เกี่ยวโยงกับบทแล้วก็สถานที่ เป็นสิ่งที่ขับความเที่ยงธรรมชาติออกมา กระทั่งทำให้ผู้ชมอินกับหนังได้มากขึ้น

ที่ไม่ดูมิได้เลย เป็นความสามารถการควบคุมภาพที่บรรจงวางเฟรมการถ่ายทำอย่างยอดเยี่ยมในทุกซีน ทุกจังหวะใช้แนวทางการเล่นกับมุมกล้องถ่ายภาพเจริญ หากผู้ใดกันถูกใจหนังภาพงาม คงจะมองประเด็นนี้ได้อย่างเพลิดเพลินๆเลยล่ะชื่นชอบกับการผลิตบรรยากาศต่างๆขึ้นในหนังหัวข้อนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นมุมภาพแล้วก็มุมกล้องถ่ายภาพ รวมถึงการเซ็ตติ้งฉากและก็แสงสีต่างๆจัดว่าทำออกมาได้ออกจะละเอียดรวมทั้งสื่อไปถึงอารมณ์ของนักแสดงแต่ละเรื่องได้ดิบได้ดี ไม่ย้ำความคลุ้งโรแมนติกจนกระทั่งเหลือเกิน กำลังถักทอออกมาเป็นหนังรักที่กำลังละมุนก้าวหน้าไปตลอดทาง รวมทั้งในที่สุดก็สามารถร้อยเรียงทุกส่วนประกอบออกมาได้ออกจะน่าพึงพอใจ

จุดบอดใหญ่อยู่ที่บทหนัง ถึงแม้ภาพยนตร์ประเด็นนี้จะมีความมากมายของผู้แสดง แต่ว่าบทกลับมีแม้กระนั้นความจำเจเยอะไปหมด ตัวอย่างเช่น ในทุกตอนความเชื่อมโยงจะจำกัดที่คู่ชาย-หญิงเท่านั้น แต่ละตอนก็ชอบเปิดเรื่องราวด้วยมุมมองของข้างชาย แล้วก็ค่อยไปเล่าเส้นเรื่องของข้างหญิงคราวหลัง ซึ่งทำให้พวกเราทายใจแพตเทิร์นได้อย่างง่ายดายเลยว่า แต่ละตอนมันจะเล่าอะไรบ้าง

หนังเลือกที่จะแสดงออกสำหรับเพื่อการเสนอแบบธรรมดา doomovie  แต่ให้ผู้แสดงเลือกแสดงออกด้วยความประพฤติปฏิบัติหรือบทสนทนาที่มีความเป็นการ์ตูนออกมา จนกระทั่งทำให้พวกเรามีความคิดว่าบทหนังค่อนข้างจะ ’เบียว’ แบบผิดจังหวะเอามากๆ

ซึ่งปัญหานี้ก็มีผลถึงกลุ่มเหตุการณ์ในเรื่อง เนื่องจากแต่ละตอนในเรื่องเกิดเรื่องสั้น ที่มิได้เกี่ยวข้องกันเลย แม้กระนั้นเพียงพอมันถูกโยนเข้ามารวมกันแบบผูกมือต่อย บทก็เลยออกมาแบบขาดๆเกินๆทำให้จังหวะของหนังมองรีบเร่งไปหมด ผู้ชมไม่ทันได้นอนก้นกับเรื่องที่เกิดขึ้น หนังก็ตัดไปอีกฉากแล้ว

ได้โอกาสมนักแสดงรวมทั้งแคสติ้งที่ค่อนข้างจะแตะเข้าถึงบทเจริญ ติดต่ออารมณ์แต่ละค้างแรกเตอร์ดีแล้ว หากว่าโดยรวมๆแล้วจะให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนดูหนังสั้นหรือไม่วสิกวิดีโอสตอปรี่หัวข้อต่างๆมาปะติดปะต่อกันราวๆนั้น แม้กระนั้นก็มาและส่วนประกอบที่น่าพึงพอใจดี

กลุ่มแคสติ้งนี้เล่นได้ค่อนข้างจะดีหมด ไม่ว่าจะเป็น พีช พชร กับ ไม่นนี่ ภัณฑิรา เป็นคู่ตัวหลักของเรื่องทั้งปวง ที่จำต้องเห็นด้วยเลยว่าพวกเขาปฏิบัติภารกิจของตนเองก้าวหน้า และก็ขับเสน่ห์กับเคมีออกมาได้ล้นหลามดี ตอนที่ ณัฏฐ์ ธุระจริต กับ เอสคุณร์ สุปรีย์ลีลาท่าทาง ก็ถ่ายทอดได้ธรรมชาติดีตามลีลาท่าทางการแสดงอันน่าคลั่งไคล้ของพวกเขา เหมือนกันกับคู่น้องเล็ก ทิกเกอร์ อชิระ กับ เพียว เพียววรินทร์ ที่ถือได้ว่าเป็นสมาชิกใหม่ทางการแสดงที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอิ่มเอมตามไปด้วย

ช่วงเวลาที่ ชิม่อน วชิรวิชญ์ กับ ปั๋น ดริสา ก็เล่นก้าวหน้า แม้ว่าจะมิได้มีหน้าที่การแสดงที่สลับซับซ้อนอะไรสักเท่าไหร่ แล้วก็จบท้ายด้วย ลี ฐานัฐพ์ กับ ฝน ศนันธฉัตร ก็สามารถแบกรับตอนของตนเองด้วยหน้าที่ที่กำลังพอเหมาะพอดี แม้ว่าจะแอบเสียดายที่มิติขององก์นี้ค่อนจะตื้นบางเบาค่อนข้างจะเพ้อๆไปสักนิด แม้กระนั้นโดยภาพรวมนั้นในภาคของการแสดง จัดว่าทุกๆองก์รับหน้าที่ของตนได้ดิบได้ดี

สิ่งที่โชคร้ายรองจากบทเป็นผู้แสดง ซึ่งไม่ใช่พวกเขาเล่นไม่ดีนะ ทุกคนก็เล่นได้ดิบได้ดีเลยล่ะ แม้กระนั้นเนื่องจากว่าบทมิได้ถูกเขียนมาอย่างละเอียดลออทำให้หนังหัวข้อนี้ไม่อาจจะขับเสน่ห์ของผู้แสดงออกมาได้หมด พูดได้ว่าแต่ละคนมาเพื่อ Cameo ด้วยไป และก็เป็นอะไรที่โชคร้ายเอามากๆ

หนังรักคอมเมดี้มองง่าย ถ้าเกิดไม่คิดอะไรก็สามารถมองเพลิดเพลินๆได้เลย มีเสน่ห์ด้วยจังหวะขำขันของดาราหนัง แล้วก็ด้วยความเล่นท่ายากด้วยการใช้ 10 นักแสดงหลัก ก็อาจก่อให้บางบุคคลรู้สึกถูกใจเพราะว่าบางนักแสดงนั้นราวกับตัวเราโดยไม่เจตนา ทว่าด้วยบทที่มิได้ประณีตบรรจงนัก ก็ทำให้หนังไม่สามารถที่จะขับเสน่ห์ของผู้แสดงออกมาได้หมด และก็จบไปอย่างไม่น่าจำเท่าไรนัก

Interstellar อินเตอร์สเตลลาร์ ทะยานดาวกู้โลก

โดยหนังหัวข้อนี้ได้มีการเก็บเนื้อหาในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ของคนเราได้อย่างยอดเยี่ยมเลยล่ะจ้ะ บอกว่าวิถีชีวิตของโลกในหนังนั้นต่างจากโลกพวกเราตอนนี้อย่างไร ซึ่งมันสะท้อนภาพของวันสิ้นโลกออกมาได้แบบสะดุดตา doomovie  แจ่มแจ้งมากมาย มีความเหมือนจริง แล้วก็มีเหตุผล ทำให้หมดห่วงเรื่องผู้ที่ถูกใจจับผิดหนังว่าดูแล้วจะไม่สนุก หรือเปล่าเมคเซนส์

ภารกิจค้นหาดาวดวงใหม่มาแทนโลกแน่ๆว่าในเมื่อภาวะโลกพวกเรากำลังไปสู่จุดวิกฤตขั้นที่สูงที่สุด ผักอะไรก็ปลูกไม่ขึ้น และก็สภาพภูมิอากาศยังมาเป็นแบบงี้อีก ทำให้ข้าวโพด ของกินหลักอย่างในที่สุดก็เบาๆหมดลง NASA ศึกษาค้นพบว่าพันธุ์พืชของโลกพวกเรากำลังจะหมดไป แล้วก็ท้ายที่สุดมนุษย์ก็จะหมดสิ้นตามไปด้วย โดยรุ่นลูก และก็รุ่นหลานของผู้แสดงนำนี่แหละจ้ะที่กำลังจะได้เห็นโลกใบนี้เป็นรุ่นในที่สุด

เมื่อทราบแบบงั้นแล้วจึงได้มีการเริ่มตรวจสอบดาวดวงใหม่เพื่อหาช่องทางความน่าจะเป็นที่จะย้ายชาวโลกไปอาศัยอยู่ตรงนั้น เมื่อรายละเอียดเข้มข้นถึงขั้นนี้ แน่ๆว่าควรจะมีฉากลุ้น ซึ้ง ดราม่า มาเรียกอารมณ์ความซาบซึ้ง ซึ่งฉากซึ้งซาบซึ้งใจของประเด็นนี้ก็แสดงความเกี่ยวข้องระหว่างผู้แสดงให้พวกเราได้อินตามกันกระทั่งน้ำตาท่วมทุ่งเอาได้อย่างง่ายๆเล่นกับความเป็น ความตาย ที่ลุ้นระทึกจากภัยที่เกิดจากธรรมชาติ ทั้งยังในโลกรวมทั้งนอกโลก รวมทั้งความห่อเหี่ยวแบบสุดๆซึ่งสามารถกำเนิดได้จริงในชีวิตพวกเราต่อจากนี้ไปอีก 20-30 ปีด้านหน้า

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนัง Sci-Fi ที่มองได้สบายๆไม่ต้องเผลอไผลในแสงสว่าง สี เสียง หรือหน้าที่ที่ลึกซึ้งอะไร ก็สามารถรู้เรื่องในตัวหนังได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าสำหรับผู้ที่พอใจความสมจริงสมจัง แล้วก็ความ Real ของบท รวมทั้งอารมณ์ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมต่างๆของตัวหนังล่ะก็ Interstellar สามารถตอบปัญหาคุณได้อย่างแน่แท้

หนังยาวนานมาก โดยประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที แม้กระนั้นบอกได้เลยว่าไม่มีจุดไหนที่น่าระอาเลยนิดหน่อยเดียว หนังเดินไปอย่างเร็ว เริ่มจากปูเรื่องราวโลกในตอนนี้กับปัญหาที่เขาจำเป็นต้องเจอทั้งยังเรื่องขาดของกินแล้วก็ฝุ่นละอองที่กระจายทั่วๆไปหมด กระทั่งดำเนินเรื่องตอนดารานำชายพบกับท้องนาซ่า แล้วก็การร่วมภารกิจ แล้วก็ไปที่ดวงดาวต่างๆ

เป็นเรื่องเดินไปเร็วมากรวมทั้งเดินหน้าไปเรื่อยไม่ว่างให้พักผ่อนเลย แล้วก็ที่สำคัญเป็นใส่หัวข้อหลักมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ซึ่งมันเป็นจุดไคลแมกซ์จุดคลายหลักสำคัญของเรื่องที่หนังใส่มาให้พวกเรามองเห็นตั้งแต่ทีแรกแล้วอยู่ที่ว่าพวกเราจะจัดการมันได้ไหม ดังหลายๆเรื่องก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาของผู้กำกับคนนี้ ที่สำคัญที่เห็นได้ชัดก็น่าจะเป็นหลักสำคัญครอบครัวนี่แหละ ที่ยังคงความดราม่าและก็จุดสำคัญตลอดมาในหนังดูเหมือนจะทุกเรื่องของเขา

เมื่อโลกไปสู่ห้วงท้ายที่สุดในสมัยพวกเรา กลุ่มนักตรวจจะต้องรับภารกิจที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยการเดินทางสู่กาแล็กซีอันไกลมาก เพื่อค้นหาความน่าจะเป็นไปได้ว่าในอนาคตมนุษยชาติอยู่ท่ามกลางดวงดาวได้หรือไม่ผลงานจากผู้ผลิตฯ มีชื่อ คริสโตเฟอร์ โนแลน (ภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight, Inception) Interstellar แสดงนำโดยแมทธิว แม็คคอนอเฮย์ ผู้ครอบครองรางวัล Oscar (Dallas Buyers Club), แอนน์ แฮทธาเวย์ (ผู้ครอบครองรางวัล Oscar Les Miserables), เจสสิก้า แชสเทน

ผู้เข้าร่วมแข่งขันรางวัล Oscar (Zero Dark Thirty), ใบเสร็จรับเงิน เออร์วิน (Rachel Getting Married), เอลเลน เบอร์สติน ผู้ครอบครองรางวัล Oscar (Alice Doesn’t Live Here Anymore) แล้วก็ไมเคิล เคน ผู้ครอบครองรางวัล Oscar (The Cider House Rules) ผู้แสดงคนสำคัญบุคคลอื่นยังรวมทั้งเวส เบนต์ลีย์, แคซีย์ เอฟเฟล็ค, เดวิด ไกอาซี่, แม็คเคนซี่ ฟอย และก็โทเฟอร์ เกรซ

ดูแลฯ โดย คริสโตเฟอร์ โนแลน เขียนบทฯ โดย โจนาธาน โนแลน รวมทั้งคริสโตเฟอร์ โนแลน ภาพยนตร์เรื่อง Interstellar อำนวยการสร้างฯ โดย เอ็มม่า โธมัส, คริสโตเฟอร์ โนแลน และก็ ลินดา ออบต์ อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย จอร์แดน โกลด์เบิร์ก, เจค ไมเยอร์ส, คิป ธอร์น รวมทั้งโธมัส ทุลเมื่อผู้เป็นบิดาจำเป็นต้องพรัดพรากบุตรสาวที่รักไปไกลแสนไกลอย่างที่ไม่ทราบวันกลับ และไม่บางทีอาจบอกเหตุผลที่จริงจริงได้ มันช่างเจ็บดวงใจยิ่งนักเมื่อติดต่อสื่อสารกันได้เพียงแค่นานๆครั้ง หลงเหลือไว้แม้กระนั้นความไม่รู้เรื่องกัน ถึงแม้รู้ดีว่าบุตรสาวเฉลี่ยวฉลาดมากแค่ไหนแม้กระนั้นหน้าที่รับผิดชอบต่อมนุษยชาติแล้วก็ตัวตนความเป็นนักบินอวกาศมันบอกให้ทำสิ่งที่จำเป็นกว่า กระนั้น ความรักครอบครัวอันเป็นอารมณ์ของผู้คนก็ไม่เคยจากไปไหน

doomovie

 

ถ้าแต่ว่าหนังก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดเรื่องนั่นหนังมีส่วนผสมที่นานัปการ ราวกับจะถือจับมาจากหนังหลายๆเรื่อง ดูแล้วก็บางทีอาจจะระลึกถึงหนังหัวข้อนั้นหัวข้อนี้ พูดได้ว่าถือจับแล้วเอามาผสมได้อย่างน่าดึงดูด ทั้งยังเรื่องดราม่าในครอบครัว วิทยาศาสตร์เชิงอวกาศ มุมมองความนึกคิดที่มองเห็นต่างเมื่อมองดูคนละขั้ว และก็มุมมองเชิงปรัชญาที่ลุ่มลึก ‘Interstellar’ ความยาว 2 ชั่วโมง 49 นาทีของโนแลนดูเหมือนไปได้ดีกับการเล่าเรื่องที่เกี่ยวกระหวัดถึงกันไปๆมาๆ บอกให้เห็นถึงจินตนาการอันลึกล้ำรวมทั้งก้าวไปไกลกว่าหนังไซไฟอวกาศเรื่องอื่นๆตัวนำจำต้องเดินทางไปไกลแสนไกลผ่านรูหนอนมุ่งสู่ระบบดวงดาวอื่น อีกทั้งผจญกับเหตุต่างๆนานาที่พันเกี่ยวทุกๆสิ่งที่ถูกเล่าเอาไว้ด้วยอย่างลึกล้ำ!

แต่ว่าก็ยังพบว่าช่วงท้ายของหนัง บางทีก็อาจจะมองสรุปง่ายสุดๆไปรวมทั้งรวบรัดตัดตอนเกินความจำเป็นบ้าง กระนั้น เมื่อมองมวลรวมของหนังที่พาพวกเราไปท่องอวกาศที่พวกเรายังไม่เคยไปถึง doomovie  ประสานแนวคิดวิชาความรู้ที่มากเกินกว่าคนเดินดินจะคิดไปถึง ศัพท์ด้านวิทยาศาสตร์ยุ่บยั่บกระทั่งบางทีก็อาจจะมองหนักหัวบางบุคคลเหลือเกินบ้าง แต่ว่าหนังก็ทำให้พวกเราตะลึงงันไปกับภาพจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ ประสานดนตรีความสามารถ Hans Zimmer อันไม่นิมอลแต่งดงาม ถึงแม้บางทีอาจต้องใจได้ไม่เท่า ‘Inception’

แม้กระนั้นก็เพียงพอจะกล่าวได้ว่าเป็นหนังที่จำเป็นต้องมอง แล้วก็จำเป็นต้องมองซ้ำเลยก็ว่าได้…หนังมีส่วนผสมที่มากมาย ราวกับจะจับจับมาจากหนังหลายๆเรื่อง ดูแล้วก็บางทีก็อาจจะคิดถึงหนังประเด็นนั้นหัวข้อนี้ กล่าวได้ว่าถือจับแล้วเอามาประสมประสานได้อย่างน่าดึงดูด ทั้งยังเรื่องดราม่าในครอบครัว วิทยาศาสตร์เชิงอวกาศ ประเด็นความนึกคิดที่มองเห็นต่างเมื่อมองดูคนละขั้ว รวมทั้งมุมมองเชิงปรัชญาที่ลุ่มลึก

เป็นหนังของ คริสโตเฟอร์ โนแลน เจ้าพ่อหนังล้ำหนังไฮคอนเสปในยุคนี้ ไซไฟดราม่า ที่ดราม่ามากมายหนังเต็มไปด้วยแนวทางณ์วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เป็นบางทีอาจจำต้องใช้พลังสำหรับในการตั้งมั่นดูและสมองสำหรับการทำความเข้าใจภาษาไซไฟสักนิด แน่ๆว่าหนังหัวข้อนี้อาจมีทั้งคนถูกใจและไม่ถูกใจ เป็นคนถูกใจหนังไซไฟคงจะถูกใจประเด็นนี้เป็นพิเศษ ตอนที่หนังไซไฟชี้แจงวิธีการณ์เหตุผลของหนังเป็นช่วงๆที่ไม่เก็ท อะไรเป็น กฎเมอฟี้ แรงโน้มถ่วงของโลก ฮอไรซั่น รูหนอน หลุมดำ รหัสมอส อันนี้ไม่ใช่หนังไม่ดี

แต่ว่าเป็นเนื่องจากคืนความรู้เกี่ยวกับฟิสิกส์ไปตั้งแต่ตอนเรียนปีสองแล้วฮะเมื่อโลกถึงเวลาขาด ผลผลิตไม่เพิ่มขึ้นกระทั่งเกือบจะไม่มีของกินเหลือ หน่วยงานที่นาซ่าได้ดำเนินงานอย่างลับๆในภารกิจเพื่อค้นหาดาวพระเคราะห์ใหม่ที่มนุษย์จะไปอาศัยอยู่ได้ พวกเขาก็เลยจำเป็นต้องไปตรวจสอบ โดยหามความคาดหมายของมนุษยชาติไว้

ในวันที่โลกไม่เหลือทรัพยากรอีกต่อไปแล้ว ผลพวงที่ทำให้ไม่มีของกินพอเพียง ปลูกผลิตผลอะไรก็ไม่ขึ้น เหลือแค่เพียงแต่ข้าวโพดเพียงแค่นั้นที่จะเป็นของกินที่เหลืออยู่เพียงอย่างเดียวของผู้คน ตัวนำของพวกเราเป็นนักบินเก่าผู้ซึ่งได้เจอกับฐานลับท้องนาซ่าโดยบังเอิญ พวกเขาจำเป็นต้องแอบสร้างสรรค์ประดิษฐ์ของเพราะเหตุว่าเรื่องงบประมาณ ผู้แสดงนำได้ไปพบและก็ถูกเชิญให้ไปตรวจสอบโลกใหม่กับพวกเขาในฐานะนักบิน โดยภารกิจนี้ดำเนินมานานกว่า 10 ปีแล้วรวมทั้งพวกกรุ๊ปของตัวนำในคราวนี้จำต้องไปตามดาวที่กรุ๊ปก่อนหน้าส่งสัญญาณออกมาว่าพอเพียงเป็นได้ที่จะใช้เป็นโลก

Notre Dame on Fire ภารกิจกล้า ฝ่าไฟนอเทรอดาม

เหตุเพลิงไหม้ที่สร้างรอยแผลให้กับชาวประเทศฝรั่งเศสไปตลอดทั้งชาติ รีวิวหนังออนไลน์ ทั้งยังสร้างความรู้สึกกระทบกระเทือนใจให้กับคนทั่วโลก กับเหตุจริงที่ถูกถือมาสร้างเป็นหนังฟอร์มดีจากประเทศฝรั่งเศส นี่เป็น “Notre-Dame On Fire “ หนังที่พาผู้ชมเข้าไปตรวจสอบกับนาทีหายนะ ดูหนัง กับมุมมองผู้กระทำอบกู้เหตุการณ์ของนักดับเพลิงผู้กล้าที่จะต้องชิงชัยกับในเวลาที่บีบคั้นเพิ่มสูงถึงทุกนาที

อย่างเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับไฟลุกมหาวิหารนอเทรอดามในเมษายนปี 2019 แต่ว่าก็มิได้พอใจมากสักเท่าไรนัก เพียงพอมีความเห็นว่าสถานะการณ์นี้ถูกผลิตมาเป็น ก็มีความรู้สึกพึงพอใจตัวหนังอยู่ไม่น้อย ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งพวกเราเองก็รู้ๆกันดีอยู่แล้วเทลเกี่ยวกับเรื่องราวนี้น้อยมาก พอใช้ได้ดูหนังก็แปลงเป็นความเซอร์ไพรซ์โดยประมาณนึงไปกับสิ่งที่หนังถ่ายทอดออกมาทั้งยังความสมจริงสมจังรวมทั้งมุมที่ยังมิได้รู้มาก่อน

ดูหนังฟรี มหาวิหารนอเทรอดามได้ถูกผลิตขึ้นมาตั้งแต่ปี คริสต์ศักราช 1160 โดย มอริส เดอ ซัลลี่ ที่ในตอนนั้นรับตำแหน่งเป็นบิชอปที่กรุงปารีส แล้วสร้างเสร็จตอนปี คริสต์ศักราช 1270 ซึ่งข้างในมหาวิหารนั้นจะจัดเก็บวัตถุอันล้ำค่าหลายแบบทั้งยังศาสนา , ศิลป์ แล้วก็ ทางสถาปัตยกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็น “มงกุฎหนามของพระเยซูคริสต์” , “เสื้อคลุมที่มั่นใจว่าเป็นของนักบุญหฝ่าส์” , “กระจกสีรูปดอกกุหราบ” , “ออร์แกนสุดยิ่งใหญ่ของนอเทรอดาม” แล้วก็ “หอระฆังคู่”

ภาพยนตร์จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานะการณ์ไฟเผามหาวิหาร Notre-Dame โดยจะเบาๆพาผู้ชมเข้าไปตรวจถึงตัวการของปัจจัยไฟเผา ไปจนกระทั่งการคลี่คลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยผู้คนจากทุกฝ่ายผลงานของผู้กำกับมีชื่อชาวประเทศฝรั่งเศส “ฌอง-ชาคส์ อองโนด์” ที่พวกเรารู้จักดีงานเขากันดีจากหนังดังๆในสมัย 90s ไม่ว่าจะเป็น Enemy at the Gates หรือ Seven Years in Tibet กลับมาโอกาสนี้นับว่าเขาได้ใช้ความเก๋าและก็ประสบการณ์การเป็นนักสร้างภาพยนตร์มายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ มาถ่ายทอดออกมาเป็นหนังดราม่าที่มีเชิงชั้นความเป็นสารคดีปนเปอยู่หน่อย กับการถือเอาเหตุเพลิงไหม้ครั้งสำคัญของโลกมาดีแผ่

อย่างแรกที่รู้สึกได้เป็น ภาพยนตร์หัวข้อนี้มีความเป็นภาพยนตร์สารคดีมากมาย เนื่องจากพรีเซนเทชั่นเรื่องราวเรื่องจริงของสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกาล ก็แค่ในคราวนี้เรื่องราวพวกนั้นถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสายตาของผู้กำกับ  doomovie โดยใช้เคล็ดวิธีทางภาพยนตร์เข้ามาสร้างเสริมเรื่องราวให้มองมีโครงรวมทั้งน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นกรรมวิธีการเล่าและก็แนวทางการลำดับภาพ

ซึ่งสิ่งที่ Jean-Jacques Annaud เลือกที่จะจุดโฟกัสในรูปภาพยนตร์ก็คือ กลุ่มเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เป็นคีย์หลักสำคัญสำหรับในการหยุดเหตุมหันตภัยไฟเผาในคราวนี้ โดยตอนช่วงหลังของประเด็นนั้น ภาพยนตร์จะพาพวกเราไปติดตามอยู่กับกลุ่มนี้เกือบจะตลอดระยะเวลา ซึ่งทำให้คนอีกจำนวนไม่น้อยรู้สึกถึงความสมจริงสมจังอย่างกับยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง นอกเหนือจากนั้น ภาพยนตร์ยังพาพวกเราไปดูกลุ่มอื่นๆที่ให้ความให้การช่วยเหลือและก็ติดต่อประสานงานกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสำหรับการปรับแต่งเหตุการณ์คราวนี้ด้วยเหมือนกัน

หากแม้ภาพยนตร์จะเทน้ำหนักไปที่กลุ่มพนักงานดับเพลิงเป็นส่วนมาก แม้กระนั้นภาพยนตร์ก็ยังคงเน้นกับผู้ชมเรื่อง ‘ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว’ ของมนุษยชาติอยู่ตลอด อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วตามข้างต้นว่า ด้านในประเด็นนั้นพวกเราจะมิได้มองเห็นเพียงแค่ลักษณะการทำงานของกลุ่มดับไฟเพียงแต่กลุ่มเดียว แต่ว่าจะได้มองเห็นทั้งยังตำรวจ, ผู้ดูแลวิหาร, นักออกแบบ รวมทั้งทหาร ช่วยกันกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อจัดการกับปัญหาและก็เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วก็ล่วงเลยวิกฤตในคราวนี้ไปร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนั้นก็ส่งต่อมวลอารมณ์เรื่อง ‘ความกลมเกลียว’ ของมนุษยชาติในยามวิกฤตมาสู่ผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม

doomovie

จากความเป็นจริงสู่ภาพยนตร์เรื่องราวของหนังเป็นการตามติดสถานะการณ์ตั้งแต่จุดเริ่มของต้นเหตุที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดเรื่องราวไฟลุกครั้งยิ่งใหญ่สุดสะเทือนใจ ไปกระทั่งกรรมวิธีหาทางดับไฟไหม้ที่กำลังลุกจนกระทั่งแปลงเป็นหายนะ ซึ่งหนังก็เล่าออกมาเป็นสเต็ปๆแบบเรียงลำดับเหตุ มิได้พลิกแพลงเล่าให้ออกมาหวือหวามากสักเท่าไรนัก ซึ่งจริงๆจุดอ่อนของหนังเป็นพอเพียงมันเฉพาะเจาะจงเล่าถึงสถานที่วิหารนอเทรอดามเหมือนเป็นตัวละครหลัก นักแสดงของหนังก็ดูกระจัดกระจัดกระจายไปหน่อย ที่มีการเล่าถึงมากมายผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวกับ โดยมิติผู้แสดงก็ออกจะบางเบา ทำให้หนังมองมีความขาดอารมณ์ความรู้สึกในส่วนตัวละครไปพอควร

ตัวหนังจะพาพวกเราไปดูเรื่องสุดสะเทือนอารมณ์ที่เป็นสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 2019 ที่การเล่าเรื่องของหนังนั้นจะออกแนวครึ่งหนึ่งสารคดีบางส่วน ที่การเล่าเรื่องนั้นเข้มข้นแบบสุดๆทั้งหมดทุกอย่างมองเหมือนจริง ทั้งยังภาพรวมทั้งเสียง รวมถึงได้ทราบถึงต้นเหตุต่างๆที่ก่อให้เกิดไฟไหม้ในคราวนี้ บวกกับการกระทำหน้าที่ของนักดับเพลิงที่จะต้องปฏิบัติงานแข่งกับเวลาแล้วก็จำต้องรอคุ้มครองข้าวของอันมีคุณค่าด้านจิตใจหลายสิ่งที่อยู่ข้างในมหาวิหารให้รอดจากการโดนไฟเผาให้ได้

ส่วนตัวถูกใจหนังที่เป็นแถว Base On True Story อยู่แล้วที่แบบถือเอาเรื่องจริงมาเล่าแล้วแปลงเป็นภาพยนตร์ซึ่งในหนังหัวข้อนี้ก็ทำออกมาได้ดิบได้ดีไม่แพ้กับเรื่องอื่นๆเลย ถูกใจตรงที่ตัวหนังนั้นถือเอาภาพฟุตเทจจริงมาผสมกับถ่ายใหม่ได้แบบเนียนตาที่แบบพวกเราแถบแยกไม่ออกเลยว่าอันนี้ถ่ายใหม่หรือเป็นฟุตเทจจริงกันแน่เลย

แถมในช่วงท้ายนั้นมันช่างทัชใจมากๆกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่กล้าหาญชาญชัยกล้าเข้าไปฉีดน้ำในจุดที่เสี่ยงมากมายๆก็เลยทำให้ไฟสงบลงท้ายที่สุดครับผมฉากนี้มันช่างปลาบปลื้มปริ่มใจสะจริงๆผู้ใดกันที่ใคร่รู้ถึงต้นเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของเรื่องราวสุดช้ำใจคนทั่วทั้งโลกก็ไม่สมควรพลาดกับหนังประเด็นนี้

ลำดับเรื่องราวเข้าใจง่ายหนังที่ไทม์ไลน์เจาะลึกในเรื่องเพียงไม่กี่ชั่วโมง แม้กระนั้นจำเป็นต้องถ่ายทอดออกมาในหลายๆมุมมองด้านในระยะของหนังที่ไม่ถึง 2 ชั่วโมงให้ได้ ก็เลยทำให้ขั้นแรกๆของหนังออกจะปูเรื่องได้อย่างช้าๆเกือบน่าระอาไปสักนิดสักหน่อย แต่ว่าเพียงพอเข้าที่เข้าทางรวมทั้งเข้าถึงเรื่องสำคัญของหนังได้แล้ว ก็ถ่ายทอดเหตุสุดลุ้นระทึกเป็นชั่วโมงที่เต็มไปด้วยความคุกรุ่นของเปลวไฟแล้วก็ความปรารถนาที่ต้องการจะสกัดกั้นเหตุการณ์นี้ลงให้เร็ว

ฌอง-ชาคส์ อองโนด์ ได้ใช้แนวทางการเล่าที่มิได้มีลูกเล่นอะไรมากแค่ไหน ดำเนินไปตามไทม์ไลน์ของเรื่องราวเกือบเป๊ะๆประสมประสานอีกทั้งฉากสำหรับการแสดงแล้วก็ฟุตเทจจากเหตุจริงตัดสลับกันไปบ้าง doomovie  นักแสดงของหนังหัวข้อนี้ค่อนข้างจะมากทีเดียว รวมทั้งนั้นก็เลยทำให้หนังไม่ว่างที่จะจุดโฟกัสให้ติดอยู่แรกเตอร์ใดติดอยู่แรกเตอร์หนึ่งสะดุดตากว่าคนไหนกันแน่ ก็เลยทำให้ภาพรวมของหนังดำเนินไปอย่างแห้งๆและก็เกือบจะไม่มีอะไรสะดุดตาเท่าไรนัก

หนังอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความเป็นสารคดีอยู่ในบางมุม แม้กระนั้นก็ต้องมีพาร์ทการแสดงเอาไว้ช่วยอบรมอรรถรสผู้ชมเป็นส่วนมาก ราวกับที่คำโปรยปรายที่ขึ้นบอกเอาไว้ตั้งแต่ทีแรกในหนังที่ว่า “สร้างขึ้นจากเรื่องราวจริงที่บางทีก็อาจจะน่าอัศจรรย์ไปสักนิด” นั่นแหละ…ด้วยเหตุว่าหนังก็ยังปรักปรำขาดๆเกินๆเข้ามาปนเปอยู่บ้าง เป็นตัวที่ช่วยทำให้ปรับอารมณ์ของผู้ชมในบางช่วงบางตอนไปตลอดทั้งประเด็นนี้

เนื่องจากว่า Notre-Dame On Fire มิได้ย้ำสร้างลักษณะเด่นให้กับนักแสดงแล้วก็การแสดงสักเท่าไหร่ ก็เลยทำให้ไม่มีผู้ใดเด่นมากมายว่าคนใดกันแน่ แต่ว่าถ้าหากจะเอ่ยถึงส่วนประกอบรวมๆของแคสติ้งในหนังประเด็นนี้ ก็จัดว่าพวกเขาทุ่มเทแล้วก็เต็มกำลังกับการแสดงในคราวนี้อย่างดีเยี่ยม ถึงจะได้มุมมองรวมทั้งวิสัยทัศน์สำหรับการแสดงออกมาแบบเชยๆตามสไตล์ของผู้กำกับลายครามผู้นี้ก็ตาม แต่ว่าก็เอาเถอะ…ก็ยังเป็นหนังที่มองพอเพียงบันเทิงใจก้าวหน้าอยู่

ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้ชมจดจ่ออยู่กับรายละเอียดพวกนั้นได้ก็คือ doomovie  งานภาพแล้วก็ฉากที่ซึ่งพูดได้ว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีรองลงมา หรือบางครั้งอาจจะดีมากกว่ารายละเอียดก็เป็นไปได้ เนื่องจากว่าภาพยนตร์ค่อนจะให้ความใส่ใจในจุดนี้มหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความยอดเยี่ยมของมหาวิหาร Notre-Dame รวมทั้งการนำเสนอภาพความสวยอีกทั้งข้างในแล้วก็ข้างนอกมหาวิหาร รวมถึงภาพจุดเกิดเหตุตอนไฟเผาด้วยด้วยเหมือนกัน

เว้นแต่สิ่งที่กล่าวไปแล้วตามข้างต้นแล้ว สิ่งหนึ่งในรูปภาพยนตร์หัวข้อนี้ที่คิดว่าอาจก่อให้คนอีกจำนวนไม่น้อยรู้สึกอารมณ์เสียได้ก็คือ นักแสดงที่เต็มไปด้วยความงงสำหรับการปฏิบัติของตน โน่นเพราะพวกเขาคนจำนวนไม่น้อยสามารถที่จะยั้งเหตุพวกนั้นได้ ก่อนที่จะมันจะแปลงเป็นเรื่องขยายแย่ลงกว่าเดิมจนถึงยากเกินจะควบคุมแต่ว่าแม้มองดูในทัศนะกัน สิ่งที่ภาพยนตร์หัวข้อนี้พรีเซนเทชั่นก็คือ ‘ความเป็นจริง’ แล้วก็บางครั้งบางคราวในเหตุการณ์จริงก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคนจำพวกนั้นอยู่จริงๆ

จุดเด่นของหนังเป็นพอเพียงหนังระบุไปที่สถานที่โดยตรง ทำให้สามารถเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นออกมาได้สุดกำลัง ผ่านเหตุการณ์แล้วก็มุมมองของมากมายผู้คนที่เกี่ยวโยงในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นสามัญชน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง vv99 slot  นักท้องท่องเที่ยววิหาร ตำรวจ และก็ผู้อื่นที่มันประกอบกันแล้วก็เล่าออกมาได้เห็นภาพใหญ่ของเหตุที่เกิดขึ้นแล้วก็ผู้คนพวกนี้ต่างก็มีความเกี่ยวข้องของคนเราแล้วก็สถานะการณ์ไฟลุกร่วมกัน เรื่องราวภารกิจของการพยายามควบคุมไฟไหม้ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ทำออกมาได้ชักชวนระทึกและก็น่าติดตาม

พล็อตหลักที่ต้องหาทางหยุดไฟไหม้ดีเทลนิดๆหน่อยๆที่เว้นเสียแต่พล็อตหลักที่ต้องหาทางหยุดไฟไหม้ หนังก็ยังมีพล็อตรองได้แก่ การเก็บกู้งานศิลปะมีคุณค่า ซึ่งมาเสริมให้หนังออกมามองบันเทิงใจและก็ปลุกอารมณ์ของความระทึกมากขึ้นเรื่อยๆได้อย่างยอดเยี่ยม งานวิชวลรวมทั้งโปรดักชั่นก็จัดเต็มรวมทั้งสมจริงสมจังมากมาย แม้กระนั้นส่วนที่น่าประทับใจที่สุดเป็นการประกอบภาพของหนังระหว่างภาพที่ถูกถ่ายทำออกมารวมทั้งภาพของฟุตเทจจากเหตุจริง โดยผสมภาพออกมาเป็นหนังประเด็นนี้ได้อย่างกลมกลืนอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังก็ทำให้หนังออกมาเหมือนจริงรวมทั้งซื่อสัตย์ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น