Fear Street

Fear Street

Fear Street รีวิวหนัง

Fear Street  ถนนหนทางอาถรรพ์ ภาค 3 : 1666  ที่แท้ ก็คงจะยังพอมี เหลือพื้นที่ให้เล่า แหล่งที่มาของเหล่าซาตานคนร้ายลูกสมุนของซาร่าห์ เฟียร์ ที่ยังไม่ถูกบอกอีกส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ก็เข้าใจว่า บางทีอาจจะไม่แรงพอ จะฉุดความพอใจของผู้ชมได้มากเท่า FearStreet Part 3 1666 เลยข้ามเล่าอดีตเสียเลยอาจดีมากกว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ภาคนี้ ก็เลยกระโดดกลับสู่อดีตปี ค.ศ.1666 หรือกว่า 300 ปีกลาย ว่ามันเกิดเหตุใดขึ้นย้อนไปเล่าสู่จุดเริ่มแรก รวมดาราหนังจากทุกภาคสมัยนั้นในแผ่นดินที่ปัจจุบันแปลงเป็นเมืองเชดีไซด์แล้วก็ซันนี่เวล มันเคยเป็นเมืองเดียวเป็น ยูเนียนในจุดที่เคยเป็นแคมป์ไนต์วิงในภาคสอง ก่อนนั้นมันเคยเป็นหมู่บ้านเล็กๆในปี 1666 ตอนนั้น

มีความเชื่อเรื่องแม่มดอาจจะขจุยขจาย รวมถึงการกระทำ LGBTQ+ ยังเป็นเรื่องที่นอกรีตนอกรอยและก็ถูกต้านจากสังคมเป็นอย่างมากด้วย เช่นเดียวกัน พฤติกรรมของตัวนำจึงหลีกไม่พ้นให้ถูกติเตียน รังเกียจและก็นำพาไปสู่การแขวนคอที่คนสมัยนี้มองว่าเหี้ยมโหดอำมหิต รวมทั้งผู้แต่งก็นำเอาสิ่งเหล่านั้นมาใช้เพื่อสร้างสรรค์เรื่องราวที่เป็นที่มาในภาคที่สามที่เล่าเรื่องราวเก่าสุดนี้ มีนักแสดงจากทั้งสองภาคมารวมกันไปมากมายอยู่ อย่างกับจะบอกเป็นนัย พวกเขาเคยเกิดเป็นคนในยูเนียนมาในกาลก่อน

Kiana Madeira กลับมาในบทซาร่าห์ เฟียร์ ที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่แอบซ่อนกับฮานน่าห์ (ที่แสดงโดย Olivia Scott Welch) ถนนอาถรรพ์ ภาค 3 1666 นอกเหนือจากนั้น ก็ยังมี Emily Rudd ที่กลับมาในบทอบิเกล Sadie Sink ในบทของคอนสแตนซ์ Benjamin Flores Jr. ในบทของเฮนรี่ น้องชายของซาร่าห์ Julia Rehwald ในบทลิซซี่ เหมือนกับ McCabe Slye ที่กลับมาในชื่อเดิมแต่โทมัสผู้ขี้เหล้าขี้ยาแล้วก็บ้าคลั่ง พร้อมมีตัวละครใหม่ โซโลมอน ที่แสดงโดย Ashley Zukermanเรื่องราวดูไม่ซับซ้อนมาก ดำเนินเรื่องชวนให้รู้สึกระแวง กับเรื่องราว ที่ชวนเชื่ออย่างเกินจริง แถมยังเผยข้อเท็จจริง ที่ถูกรู้ผิดมาตลอด อีกด้วย บ่งบอกว่า บางสิ่งที่ถูกเล่าสืบต่อกันจากอดีตกาล บางทีอาจผูกไว้ด้วยอคติของคนในกาลก่อน

สร้างความเข้าใจผิดต่อเนื่องมาจนปัจจุบันบรรจบเรื่องราวในปัจจุบัน แทรกใส่แง่มุมน่าคิดแล้วต่อจากนั้น ผู้ชมก็ถูกดึงกลับสู่ปัจจุบันทันทีทันใด ความเป็นจริงถูกเผยรวมทั้งถึงเวลาที่ผู้แสดงต้องแก้ไขคำสาปแช่งที่มีมายาวนานให้หมดเกลี้ยงไปพลาดท่า ต้องไม่มีผู้ใดตายเพราะเหตุว่าตำนานและความแค้นเช่นนี้อีกโดยรวมมันจำต้องดูสองภาคแรกมาก่อนอยู่แล้ว และก็เรื่องราวที่เหลือหลังจากนี้ เหมือนทำให้สถานะการณ์เดิมเกิดซ้ำขึ้นอีกทีแต่ว่าในเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป

เหล่าลูกน้องปีศาจร้ายคนร้ายกลับมาอาละวาดอีกที แม้กระนั้นพวกมันการเป็นเหยื่อแทน รวมทั้งพวกเขาจะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ เพื่อช่วยแซมและช่วยชาวกรุงเชดี้ไซด์ให้สำเร็จมีบางสิ่งบางอย่างในเรื่องนี้ที่ทำให้มีความรู้สึกฉุกคิด และก็เห็นว่าน่าสนใจอยู่พอสมควรอย่างการเล่นคำหนึ่ง เป็น ชื่อของ ซาร่าห์ เฟียร์ — Sarah Fier

นามสกุลของคุณเป็นเฟียร์ ที่พ้องเสียงกับคำว่า Fear ที่แสดงว่า ‘ความกลัว’ ส่วนชื่อของหนังสามภาค Fear Street ก็บ่งบอกความหมายถึง ถนนหนทางที่ความหวาดกลัว อีกนัยบางทีอาจซึ่งก็คือ ถนนที่ซาร่าห์ เฟียร์ นั่นเอง ในเวลาเดียวกัน คืนนั้นก็เริ่มมีผู้ที่สวมหน้ากากผี มาเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านของดีน่า แล้วก็เริ่มไล่ฆ่าคน

fearstreet เผยความเป็นจริง

แม้กระนั้นฆาตกรที่ไล่ฆ่านั้น มิได้มี แค่เพียงผู้ที่สวมหน้ากาผี เพียงเท่านั้น ยังมีฆาตกรหญิงสาว ที่ถือมีดโกนหนวด ตามไล่ฆ่ากับขับร้อง คำกลอนไปด้วย รวมทั้งฆาตกรที่ถือขวานวิ่งตามไล่ฆ่า ซึ่งฆาตกรเหล่านี้ หน้าจอช ที่เป็นน้องชายของดีน่า ก็ได้สันนิษฐานว่า คนร้ายที่ไล่ฆ่าพวกเขาบางที ก็อาจจะเป็นลูกสมุนของแม่มดอย่าง ซาราห์ เฟียร์ ที่ปรารถนาตัวและเลือดของแซม ดีน่า เคท หน้าจอช และไซม่อน จึงรีบพาแซมหนีฆาตกรที่ตามไล่ฆ่า จนกระทั่งไป พบกับข้อเท็จจริงว่าในปี 1978

ก็เกิดเรื่องราวแบบนี้ เกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน แต่ว่าซิกข์กี้ ผู้โดนตามไล่ฆ่านั้น สามารถรอดมาได้ ดีน่า ก็เลยได้เบาะแสอะไรบางอย่างเกี่ยวกับร่างของเฟียร์ จนได้ย้อนไปได้เห็นภาพในปี 1666 ปีที่เป็นจุดเริ่มแรกเรื่องราวต่างๆนั้นเอง สู่จุดสิ้นสุดของเรื่องราวความแค้น รีวิวข้างหลังดูจบ ให้ 10/10 คะแนน

สามเรื่อง ในแต่ละปีนั้น เชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างดี โดยเฉพาะพาร์ทสุดท้าย ที่เฉลยคำตอบ เงื่อนที่ผูกมาไว้ ภายในเรื่อง คลี่คลายและก็เฉลยคำตอบออกมาได้ดีมาก โดยส่วนตัวของคนเขียนชอบพาร์ทท้ายที่สุด นี่ที่สุดแล้ว เป็นการเฉลยเรื่องราวของซาราห์ เฟียร์ เหตุผลที่ซาราห์ เฟียร์ โกรธแค้น และสาเหตุจริงๆ ที่ทำให้เมืองเชดี้ไซด์เกิดแม้กระนั้นเหตุโศกนาฏกรรม รวมทั้งเมืองซันนี่เวลที่ศิวิไลซ์แปลกตา ชอบพอในบทของเรื่องซึ่งสามารถผูกปมระหว่าง ฆาตกร แม่มด แล้วก็ปีศาจ 3 หัวข้อนี้ผูกเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม ถูกกันมาก ไม่ขัดข้องอะไรบ้างที่อยู่ในบทเลย

fear street เรื่องราวในภาคสามนั้น ดีน่าได้ย้อนกลับไปในปี 1666 ที่มีฉากหลังเป็นในสมัยศตวรรษที่ 17 ได้มองเห็นงานภาพแล้วก็ถูกเซ็ตฉากมาได้อิงตามประวัติศาสตร์อยู่บ้าง และยิ่งมีเรื่องของการล่าแม่มดเข้ามาเกี่ยวเนื่องแล้วนั้น ยิ่งเกื้อหนุนความหลอน ความน่าขนลุกเข้ามาในเรื่องเยอะขึ้นเรื่อยๆ ฉากการฆ่าก็ยังคงมาตรฐานความน่าสะพรึงกลัวไว้ไม่แพ้ 2 ภาคเลย

FearStreet ทั้งสามพาร์ท

ซึ่งในพาร์ทแรกนั้น จะเป็นการย้อนอดีตไป ทำให้เห็นว่า ความเป็นจริง เป็นอย่างไรกันแน่ เฟียร์เป็นแม่มดใช่หรือ? แล้วซาตาน ในเรื่องจะผูกเข้ายังไงการดำเนินเรื่องในส่วนของตอนครึ่งแรกของเรื่องดำเนินไปได้สวยมากพอสมควรเลย พอดีน่าได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับเฟียร์ในอดีตกาล ก็เลยได้กลับมายังเหตุปัจจุบันนี้แล้วก็จัดการกับคนร้าย สิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องที่แท้จริงนั้นเอง

ซึ่งในส่วนของพาร์ทนี้ก็เดินเรื่องได้ ลุ้นระทึกและเอาใจช่วยกับการต่อสู้ไปๆมาๆกนับได้ว่าเป็นตอนสุดท้ายที่ดีเลิศ จัดการทุกประเด็นทุกปัญหาที่เกิดขึ้น เต็มอิ่มกับเรื่องราว รวมทั้งสนุกสนานจนถึงยกให้เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญในใจ อีกหนึ่งเรื่องเลย ชี้แนะว่าคนไหนกันแน่ที่เป็นคอหนังตื่นเต้นไม่ควรพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด ชอบกระบวนการเล่าเรื่องใน 1666 เป็นอย่างมาก ลักษณะราวกับการเล่าเรื่องแบบย้อนไป

เป็นการเล่าราวของเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อนและค่อยๆสืบย้อนหลังกลับไปพบตัวการของเรื่อง ในจุดนี้มันทำให้เราดูแล้วไม่มีเบื่อมันทำให้เราอยากค้นหาคำตอบไปพร้อมๆกับผู้แสดง เล่าเร็ว มีที่ไปที่มามีการแสวงหาความจริง สามารถสรุปปัญหา หรืออะไรก็ตามที่ค้างคาใจคนดูทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ Fearstreet 1994 และก็ 1978 ได้อย่างเกือบหมดจด เฉลยจุดเริ่มต้นของอาถรรพณ์ได้ดิบได้ดี

โดยเฉพาะ เรื่องราวอาถรรพณ์ และการเคียดแค้น ของแม่มดซาร่าห์ เฟียร์ ที่เป็นต้นเหตุคำสาปแช่งของเมืองเซดี้ไซด์ ก็กล่าวได้หมดจดนอกเสียจากว่าเรื่องราวของมือสังหารบางคน เขากลับเล่าได้น้อยมาก จนถึงดุจว่าไม่ต้องการให้เราอยากทราบที่มาที่ไปของมือสังหาร ตรงนี้โชคร้ายมาก แถมในตอนจบของเรื่องเลยเขาก็ทิ้งบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ให้เป็นเชื้อ อันเป็นเอกลักษณ์ของหนังแนว 80s กับ 90s เอาไว้ด้วย ซึ่งเขาจะสามารถทำต่อไหมทำต่อก็ยังได้ ในจุดนี้ชอบใจมากๆนะครับ
https://lapierre-provencher.com/