ท่อไอเสีย อะไหล่ชิ้นส่วนสำคัญ

ท่อไอเสีย

ท่อไอเสีย อะไหล่ชิ้นส่วนสำคัญ

 

ท่อไอเสีย รถเป็นอะไหล่ชิ้นส่วนสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับ ระบบเบรค ระบบส่งกำลัง ระบบรองรับช่วงล่าง โดย ท่อ ไอเสียรถยนต์ จะทำหน้าที่รองรับกำลังของเครื่องยนต์ที่แปรผันไปตามการเร่ง การเบรค และการรับโหลดของเครื่องยนต์ โดยเป็นทางระบายไอเสียออกจากเครื่องยนต์ เพื่อลดเสียงระเบิดให้น้อยลง รวมทั้งยังช่วยกรองมลพิษให้ออกมาสู่อากาศน้อยลงผ่าน “แคตตาไลติกคอนเวอร์เตอร์” ซึ่งหนึ่งส่วนประกอบสำคัญของท่อ ไอเสีย โดยสิ่งที่หลงเหลือจากการเผาไหม้แล้วออกมาจากท่อ ไอเสียก็คือ สารประกอบที่รวมกันออกมาในรูปแบบก๊าซ โดยมีส่วนผสมดังต่อไปนี้

 

  • คาร์บอนไดออกไซด์
  • คาร์บอนมอนนอกไซด์
  • ไนโตรเจนไดออกไซด์
  • ซัลเฟอร์ไดออกไซด์
  • ฟอสฟอรัส
  • โลหะหนักต่างๆ เช่น ตะกั่ว, โมลิบดีนัม ฯลฯ

 

อาการท่อ ไอเสียตัน หรือท่อรั่ว สังเกตอย่างไร

นอกจากจะเป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตัวรถแล้ว ท่อรถ ยังเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สังเกตความผิดปกติได้ง่าย เพราะเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุด และบอกถึงความผิดปกติของรถยนต์ได้อย่างชัดเจน ใครใช้รถอยู่ตลอดเวลาก็ย่อมสังเกตได้โดยง่ายว่า มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งก็มี 6 อาการที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ ดังต่อไปนี้

 

1. ท่อ ไอเสีย เสียงดัง เสียงแปลก

เมื่อท่อ ไอเสียรั่ว แน่นอนว่า เสียงของรถยนต์จะผิดเพี้ยนจากปกติ โดยส่วนใหญ่แล้วหากท่อ ไอเสียรั่วนั้นมักจะส่งเสียงดังกว่าเดิม  ถ้าหากรถไม่ได้แต่งท่อมาแล้วแต่เสียงท่อ ไอเสียดังกว่าปกติจนเพื่อนบ้านทักล่ะก็ ควรต้องถึงเวลาที่จะลองเอารถไปเช็กดูนะคะ หากปล่อยไว้อาจจะส่งผลต่อส่วนอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นท่อ ไอเสียหลวมหรือมีเกิดการแตกหักก็ได้

 

นอกจากนั้น ทุกครั้งที่มีการสตาร์ทเครื่องก็ควรสังเกตเสียงของท่อ ไอเสียด้วยว่า เปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยขนาดไหน หากจู่ๆ เสียงของท่อ ไอเสียเปลี่ยนไป ก็นับว่าเป็นสัญญาณว่า มีอาการผิดปกติอย่างแน่นอน ดังนั้นหากพลความผิดปกติไม่ว่าจะเสียงที่ดังเกินไป หรือเสียงแปลกไปจากเดิม ก็ควรจะต้องนำรถเข้าไปให้ช่างดูในทันที ดีกว่าไปเกิดการเสียหายขึ้นกลางทาง เช่น การหลุดของท่อ ไอเสียหรือการที่ท่อ ไอเสียเกิดการครูดไปกับทางบนถนนจนเกิดสะเก็ดไฟไปโดนกับน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้รถเกิดระเบิดไฟลุกท่วม สร้างความเสียหายต่อทั้งแก่ชีวิตและทรัพย์สินของเรานั่นเอง

 

2. ท่อ ไอเสีย มีกลิ่นเหม็น จากควันเข้าห้องโดยสาร

สัญญาณนี้แหละ เป็นสิ่งที่บอกเราว่าอันตราย และอาจะนำไปสู่การเสียชีวิตได้ สาเหตุเกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักกว่าปกติและเป็นสาเหตุของการรั่วไหลของก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ที่อาจรั่วเข้ามาในห้องโดยสารได้ ซึ่งอาจจะทำให้มีอาการปวดหัว มึนงง ง่วงนอน ไม่รู้สึกตัว หรืออาจจะได้รับในปริมาณที่มากจนเกินไปและทำให้เสียชีวิตเลยก็เป็นได้!

 

3. รถสั่น เร่งไม่ขึ้น

ถ้าเป็นผู้ที่ขับรถเองประจำแล้วรู้สึกได้ว่า ตอนที่เหยียบคันเร่งเกิดอาการสั่นของรถที่มากจนผิดปกติ รถเร่งไม่ขึ้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บางส่วนของท่อ ไอเสียได้เกิดปัญหาขึ้นแล้วอย่างแน่นอน ยิ่งถ้ามีเสียงก้องในตอนที่สตาร์ท แสดงว่าอาจมีรอยรั่วที่ใหญ่มากจนได้ยินเข้ามาถึงในห้องเครื่อง ซึ่งจะต้องรีบนำรถเข้าศูนย์หรือแจ้งให้ช่างดูให้อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นนั่นเอง

 

4. รถอืดวิ่งไม่ออก กินน้ำมันกว่าปกติ

ถ้ารถที่เคยวิ่งได้อยู่ดีๆ จู่ๆ ก็เกิดอาการอืด วิ่งไม่ได้ เร่งเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น หรือน้ำมันที่เติมหมดเร็วกว่าปกติทั้งที่ใช้อัตราความเร็วเท่าเดิมและระยะทางเป็นระยะทางเดิมๆ ให้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้เลยว่า น่าจะเกิดปัญหา ท่อ ไอเสียตัน เนื่องจากเครื่องยนต์กำลังทำงานหนักมากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะมีก๊าซคาร์บอนมอนออกไซค์ที่ต้องถ่ายออกย้อนกลับเข้าไปหรือตกค้างในเครื่องยนต์ ทำให้ตัวเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เนื่องจาก รถไม่สามารถดึงอากาศที่มีอ๊อกซิเจนเข้ามาแทนที่ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซค์ที่ตกค้างเพื่อเป็นชนวนในขั้นตอนการสันดาปเชื้อเพลิงนั่นเอง

 

5. อุณหภูมิของรถสูงผิดปกติ

หากกำลังขับรถอยู่แล้วมีไฟเตือนว่า อุณหภูมิสูงผิดปกติ แต่กลับไม่มีสัญญาณเตือนอื่นๆ หรือมีอาการอื่นๆ เกิดขึ้น ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า มีความผิดปกติที่ท่อไอเสียที่ต้องได้รับการแก้ไขได้ทันที ควรแวะศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมรถใกล้ๆ และให้ช่างเช็กความผิดปกติดูให้เรียบร้อยเสียก่อนเพื่อป้องกันอันตรายในการขับขี่ต่อไป

 

6. ท่อ ไอเสีย มีรอยชำรุดหรือสนิม

ถ้ารถเคยขับผ่านบริเวณที่มีไอน้ำเค็มหรือลุยน้ำท่วม เจ้าของรถควรใช้แม่แรงยกรถแล้วตรวจสอบดูว่า ท่อ ไอเสียเกิดอาการชำรุด มีรอยสนิม รอยผุ รอยแตกหรือไม่ จากนั้นลองสตาร์ทรถแล้วเช็กว่า มีควันที่ซึมออกมาตามตรงกลางท่อ ไม่ได้ออกจากปลายท่อไอเสียหรือเปล่า ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็ควรนำรถไปเปลี่ยนท่อไอเสียหรือให้ช่างจัดการทำท่อ ไอเสียให้ดีกว่าเดิมก่อนที่จะเกิดอันตรายบนท้องถนนได้

 

จากสัญญาณ ท่อ ไอเสีย มีปัญหาที่ได้กล่าวไว้ทั้งหมด หากท่านใดที่พบเจอสัญญาณเหมือนตัวอย่างที่เราได้บอกไปแล้ว อย่านิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดและส่งผลต่อชีวิตได้ ซึ่งแน่นอนว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่คุ้มค่าอย่างแน่นอน

 

ทำไมถึงต้องอัพเกรดท่อ ไอเสีย ?

ทำให้ได้ทอร์คกับแรงบิดมากขึ้น: เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบา หรือ ความเร็วต้น ไอเสียจะมีปริมาตรน้อย ส่งผลให้ไอเสียระบายออกไปยังปลายท่อได้ยาก ทำให้รถยนต์ขาดทอร์คกับแรงบิดในความเร็วช่วงต้น ซึ่งท่อที่จะมาช่วยดูดไอเสียในความเร็วช่วงต้นให้ไวก็คือ ท่อใบพัด (Spiral Muffler) 

ทำให้ความเร็วปลายเร่งได้ง่าย: เมื่อเครื่องยนต์ต้องการกำลัง หรือมีการเหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็ว ไอเสียจะมีปริมาตรสูง ประกอบกับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้มีการจุดระเบิดแบบ Advanced (ก่อนจุดกลับตัว) ทำให้ไอเสียต้องการแรงดันกลับ (pressure) ที่สร้างจาก ท่อพักไอเสีย (Resonator/Muffler)

 

ใส่ท่อแบบไหน ถึงวิ่งดี ?

จากที่เราได้อธิบายมา จะพบว่าท่อ ไอเสียที่ดี ต้องคายไอเสียได้ไว ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่บ้วนทิ้งหมด ต้องมีแรงดันกลับของไอเสีย (back pressure) กล่าวคือ ท่อ ไอเสียที่ดีนั้น ต้องมีความพอดีของไอเสีย ซึ่งในรถยนต์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น แต่ละประเภทเครื่องยนต์ แต่ละประเภทเกียร์จะมีความแตกต่างกันของท่อไอเสีย ซึ่งต้องคำนึงถึงทั้งสิ้น

 

สังเกตได้จาก การเหยียบคันเร่งไวๆ รถยนต์จะมีเสียงสั้น และเสียงที่ได้จะออกที่ปลายท่อ ทำให้สังเกตได้ว่าในการขับขี่ รถยนต์จะเปลี่ยนเกียร์ได้ไว เนื่องจากเครื่องยนต์หมุนรอบ เกียร์ตอบสนอง ส่งผลให้ความเร็วของรถยนต์ไปได้ตามที่เท้าเราเหยียบคันเร่ง 

 

ดังนั้น การทำท่อรถยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะ ต้องทำเพื่อให้ท่อ ไอเสียมีทั้งความโล่ง (flow) และมีทั้งแรงดันกลับ (back pressure) ณ ขณะเวลาที่รถยนต์ต้องการ ให้พอดีและเหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์ แรงม้าของเครื่องยนต์ น้ำมันที่ใช้ การดูแลรักษารถยนต์ และสภาพของรถยนต์ที่เป็นมาก่อน ผู้ที่ออกแบบท่อ ไอเสียรถยนต์จึงต้องมีความชำนาญการในการออกแบบอย่างมาก โดยร้านหลำเฮดเดอร์ พร้อมให้บริการออกแบบและติดตั้ง ให้กับรถยนต์ของคุณ 

 

Akrapovic

คนไทยทุกคนที่เล่นรถคงไม่มีใครไม่รู้จักท่ออาคา ซึ่งเป็นคำสั้นๆที่เรียกมาจาก Akrapovič  บริษัทผลิตท่อ ไอเสียชั้นนำของโลกจากสโลวีเนีย ที่โด่งดังในด้านนวัตกรรม และการพัฒนาท่อ ไอเสียทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์มาอย่างยาวนาน ด้านประสิทธิภาพนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะนำมาอันดับต้นๆของแบรนด์ที่ผลิตท่อ ไอเสียเลยทีเดียว ในแง่การออกแบบที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ น้ำหนักเบาติดตั้งกับตัวรถได้อย่างแนบเนียน ความล้ำลึกของเสียงที่แผดออกมา และสมรรถนะที่รีดออกมาดึงดูดใจเหล่าขาซิ่งเป็นอย่างมาก

 

Akrapovic เป็นผู้ผลิตระบบไอเสียของสโลวีเนียที่เริ่มก่อตั้งตั้งแต่ปี 1990 จากอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์และขยายไปสู่การผลิตท่อ ไอเสียรถยนต์ในปี 2010 Akrapovic เป้นผู้ผลิตท่อ ไอเสียระดับโลกในด้านกีฬาการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ (motorcycle sport)เพราะผลิตภัณฑ์Akrapovic สามารถเพิ่มความแรงให้กับยานพาหนะและยังมีน้ำหนักเบา ท่อ ไอเสีย Akrapovič ผู้ผลิตระบบไอเสีย ที่ใช้กันในหลายๆทีมแข่งดังๆเช่น Moto GP, superbike, super sport, Supermoto, motocross, enduro และ rally raid  ผลงานล่าสุดของท่อ ไอเสีย Akrapovic ในเดือนพฤษภาคม 2010 ระบบ Akrapovič ถูกใช้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกทั้งหมด 38 รายการทั่วมอเตอร์สปอร์ต

 

Akrapovic บริษัทเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ เช่นYamaha ที่เสนอให้ Akrapovič เป็นโรงงานเสริมหรือตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งใน R1และ MT-01นอกจากนี้ BMW Motorrad ได้ที่เสนอให้ ท่อ ไอเสียAkrapovicเป็นมาตรฐานให้ R nineT, S1000R, F800R, HP2 Megamoto, และเป็นตัวเลือกสำหรับมอเตอร์ไซค์อื่นๆ ในเครืออีกด้วย ท่อ ไอเสีย Akrapovic  ยังใช้กับรถแข่งของ Kawasaki เช่น Z1000 เช่นเดียวกับ Honda, Aprilia และ Suzuki นอกจากนี้Akrapovič เป็นผู้จัดหาระบบไอเสียสำหรับรถยนต์ของ Audi LMP ตั้งแต่ปี 2009 และเป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของ Audi Sport เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2012 ให้กับรถรุ่น Audi R18 และ Audi A5 DTM นักแข่งมอเตอร์ไซค์ชั้นนำหลายคนในการแข่งขัน Supersport ก็ขับขี่ด้วยท่อ ไอเสียแบบ Akrapovič รวมถึง Roger Lee Hayden ผู้ซึ่งติดตั้งใน Kawasaki ของเขา

 

ผลิตภัณฑ์Akrapovic นี้ได้รับการพัฒนาและทดสอบร่วมกับท่อ ไอเสียแบบ Slip-On Race (ไททาเนียม) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่ออัพเกรดระบบ Akrapovič เพื่อการปรับแต่ง Tuning เพิ่มเติมชุดท่อลิงค์มีความคมและความลึกทันทีที่สตาร์ทเครื่องยนต์เสียงของเครื่องยนต์ที่ต่อด้วยท่อเชื่อมต่อที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษซึ่งรวมตัวเร่งปฏิกิริยา 200 CPSI ที่มีอัตราการไหลสูง ขจัด OPF/GPF การขับขี่รถด้วย RPM ต่ำจะเติมเต็มความรู้สึกที่หนักแน่น แข็งแกร่ง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเร่งความเร็วไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในเกียร์ที่สูงขึ้นในขณะที่การเปลี่ยนเกียร์ลงจะมาพร้อมกับเสียงที่คมชัดซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการแข่งขันผลิตภัณฑ์Akrapovic  พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในวงจรการแข่งขันแบบปิด ความสะดวกสบายภายในห้องนักบินจะคงอยู่ตลอดช่วงรอบเครื่อง โดยไม่มีเสียงรบกวนจากท่อ

 

Akrapovic ช่วยให้ส่งกำลังและแรงบิดเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีกำลังเพิ่มขึ้น +25.2 กิโลวัตต์ (34.2 แรงม้า) และแรงบิด +74.9 นิวตันเมตรที่ 3,200 รอบต่อนาทีที่บันทึกไว้ในการวิ่งแบบback-to-back บน Akrapovič dynoเทียบกับ Porsche 911 Turbo (992) ที่ใช้ ระบบไอเสียPorsche stock sports เส้นโค้งแรงบิดที่เพิ่มขึ้นให้การตอบสนองที่สมบูรณ์แบบจากความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ Porsche Turbo / Turbo S ที่ติดตั้งระบบไอเสีย Akrapovič ได้ด้วยdiffuser ด้านหลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์Porsche 911ที่จะทำให้รูปลักษณ์ความเท่ด้านหลังของรถไปสู่อีกระดับ และแสดงให้เห็นท่อ ไอเสียของระบบ Akrapovič Slip-On line อย่างเต็มที่

 

FI Exhaust

FI Exhaust System (Frequency Intelligent) ชุดท่อ ไอเสีย Valvetronic พร้อมวาล์ว เปิด/ปิด โดยลูกค้าสามารถเลือกเปลี่ยน CAT และ ปลายท่อ “สูตรต่างๆของทาง FI ที่ให้เสียง และ Performance ที่แตกต่างกันตามความต้องการของแต่ละคน” ทุกชุดมาพร้อม Built-In Controller ที่ให้คุณสามารถควบคุมวาล์วผ่านปุ่มในรถ หรือ Smartphone โดยมีโหมดต่างๆให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ เปิด/ปิด และ Auto ด้วยสูตรท่อ ที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่ม แรงม้า แรงบิด และการตอบสนองของคันเร่ง

 

HKS EXHAUST SYSTEM

ท่อ ไอเสีย HKS เป็นท่อ ไอเสียแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ท่อ ไอเสียคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับรถคุณ การระบายไอเสียให้ได้ดีที่สุดมาจากการคัดสรรวัสดุที่ใช้ สำหรับวัสดุที่ HKS เลือกใช้อยู่ในระดับ Premium 

วัสดุผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง ไม่เป็นสนิมและยังให้น้ำหนักที่เบาขึ้น ใยแก้ว Advantex ในหม้อพักท่อ ไอเสียมีประสิทธิภาพในการทนความร้อนได้สูงและให้ความทนทานมากกว่าเมื่อผ่านการใช้งาน HKS มีชื่อเสียงในมาตราฐานของประเทศญี่ปุ่น และ ระดับโลก 

ซึ่งผู้ใช้งานจากทั่วทุกมุมโลกต่างให้การยอมรับ แม้แต่ในสนามแข่ง Drag, Circuit และ Rally ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน Cool สุดๆ ยกระดับรถคุณ ให้ลงตัวยิ่งขึ้นด้วย Design ปลายท่อแบบต่างๆ เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของท่อ ไอเสีย HKS

 นอกเหนือจากประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ท่อไอเสีย จาก HKS ยังไม่ลืมคำนึงถึงข้อกฎหมายด้านมลพิษทางเสียง ท่อ ไอเสีย HKS ทุกใบจะผ่านการตรวจสอบคุณภาพและผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย ภายใต้มาตราฐาน ISO 9001 รองรับทั้งรถ ECO CAR, PICK-UP และ PPV ให้รถของคุณออกตัวได้ดียิ่งขึ้น ส่วนเรื่องแรงม้าสำหรับคนที่ชอบความเร็ว คุณจะพลาดท่อ ไอเสีย HKS ไม่ได้เลย ท่อ ไอเสีย HKS มาพร้อมกับใบรับประกันและคุณภาพที่คุณต้องประทับใจ

 

HKS ตอบโจทย์ ของคนที่รักรถเป็นชีวิตจิตใจ คลอบคลุมทุกๆความต้องการที่ท่อ ไอเสียควรมี HKS คำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อให้เกิดประโยชน์และใช้งานได้เต็มสมรรถนะของรถยนต์ที่สุด ไม่เพียงแค่ในประเทศญี่ปุ่น ในประเทศไทยเราได้มีการผลิตสินค้าที่มีเทคโนโลยี และ KNOW-HOW เป็นของเราเอง และเรายังผลิตงานท่อ ไอเสียให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อีกด้วย

 

ได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยสำนักงานใหญ่ของ HKS ในประเทศญี่ปุ่น  และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการผลิตให้แก่ผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย สำหรับโรงงานผลิตท่อ ไอเสียในประเทศไทย ได้รับการรับรองคุณภาพโรงงานระบบ ISO9001 และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศได้เป็นอย่างดี “แรงม้าสูง ประสิทธิภาพสูงสุด เสียงที่ทุ้ม นุ่ม มีพลัง และ รูปแบบที่สวยงามมีสไตล์” HKS