รวมหนัง พระนเรศวร ทุกภาค ภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระพระราชามหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง ถ่ายทอดเรื่องราวอันเป็นผลจากการแพ้ของหงสาวดีในคราวศึกพระยาพะสิมแล้วก็พระผู้เป็นเจ้าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทำให้พระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงทรงใส่ใจในพระความสามารถสามารถของสมเด็จพระกษัตริย์ แล้วก็ในความแข็งแรงของกองกองทัพอยุธยา ก็เลยทรงยกพลใหญ่เป็นกองทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชเมืองไทย
กองทัพกษัตริย์ของพระผู้เป็นเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงมีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่านับถือกว่าทุกศึก มีช้าง 3,200 กองทัพ ม้า 12,000 แล้วก็ขี้ข้าราบซึ่งมีปริมาณถึง 252,000 คน โดยมีนายกองทัพผู้ปัญญาสามารถสามารถมาร่วมรบ อีกทั้งพระมหาอุปราชา, มางจาชโร เจ้าผู้ครองเมืองจาปะโร และก็ลักไวทำมูทหารกล้า โดยพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงตั้งกองทัพหลวงทางทิศตะวันตกเฉเหนือที่ขนอนปากคู กองทัพมังมอดราชบุตร์กับพระยาพระรามตั้งที่ทุ่งมะขามหย่อง กองทัพพระยานครตั้งที่ปากน้ำพุทธเลา กองทัพนันทสูตั้งที่ขนอนบางลาง กองทัพพระผู้เป็นเจ้าโคนงอูตั้งทุ่งชายเคือง กองทัพพระมหาอุปราชาตั้งที่ขนอนบางตะท้องนาว
ดูหนังใหม่ เต็มเรื่อง รวมหนัง พระนเรศวร ทุกภาค
ข่าวสารการเปลี่ยนรัชกาลของอยุธยาทราบไปถึงพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรง ท่านสำคัญว่าอาณาจักรไทยจะไม่เป็นปกตำหนิสุขเป็นช่องเชิญชิงเชิงก็เลยให้มังสามเกียดอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑากองทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีก ข้างสมเด็จพระกษัตริย์ฯทรงโปรดให้พระราชมนูเป็นทัพหน้าขึ้นไปมองกำลังศัตรูถึงหนองสาหร่าย ทัพหน้าพระราชมนูปะทะกับกองทัพประเทศพม่า แต่ว่ากำลังข้างพระราชมนูน้อยกว่าก็เลยแตกพ่ายแพ้ถอยลงมา สมเด็จพระพระราชาฯรู้ความก็เลยวางอุบายให้กองทัพศัตรูไล่กระเจิงลงมากระทั่งเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอกองทัพศัตรู คราวนั้นช้างทรงของสมเด็จพระพระราชาฯ
นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และก็ช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถยนต์เป็นเจ้าพระยาปราบไตรจักรต่างตกมัน วิ่งร่าเบกพลฝ่าเข้าไปในกองทัพประเทศพม่ามอญกึ่งกลางวงล้อมศัตรูและก็หยุดอยู่หน้าช้างพระมหาอุปราชา สมเด็จพระพระราชาฯ ก็เลยประกาศท้าทายพระมหาอุปราชแห่งหงสาให้ออกทำยุทธหัตถีเป็นพระเกียรติขั้นแก่แผ่นดิน ด้วยชาติขัตติยมานะพระมหาอุปราชาก็ไสพระช้างทรงออกทำคชยุทธด้วยสมเด็จพระพระราชาฯ ในตอนที่มังจาปะโร พระคนดูแลองค์สมเด็จพระมหาอุปราชได้ออกทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระเอกาทศรถยนต์สัประยุทธ์กันเป็นสองคู่ สู่มหาศึกคชยุทธ์ที่มีแผ่นดินเป็นพนัน
คราวหลังปล่อยให้รอมาแสนนาน หนัง “ตำนานสมเด็จพระกษัตริย์มหาราช 5: ยุทธหัตถี” ก็จะเข้าฉายโรงตอนท้ายวันที่ 29 พฤษภาคมนี้นะครับ แล้วก็ตัวอย่างหนังแรกก็เผยโฉมออกมาแล้ว หนังจะได้ผลสำเร็จสรุปของห้าภาคประเด็นนี้ ที่ดำเนินการสร้างมาอย่างนาน และนับจากภาคแรก “องค์รับประกันหงสา” ที่ออกฉายในม.ค.ปี 2550 ก็รวมแล้วกินช่วงฉายของทั้ง 5 ภาค ราว 7 ปีเศษๆครับ
เรื่องราวในภาคนี้ เรื่องราวสำคัญยังคงอยู่ที่การรบทัพจับศึกยุทธหัตถีอันเลื่องลือตามชื่อที่ผู้ชมจะได้แลเห็นพระปัญญาสามารถสามารถสำหรับในการกรำศึก ประดิษฐ์กลเม็ดเด็ดพรายสำหรับการรบ ความสามารถการคิดอ่านในกลเกมคิดแผนรบ รวมทั้งความเป็นอัจฉริยะ รวมทั้งความเชื่อมั่นในฐานะกษัตริย์ของสมเด็จพระกษัตริย์มหาราช (พ.ท. วันชนะ สวัสดี) ถึงแม้ผู้ชมจะได้รับทราบชะตาชีวิตของศิลปินอื่นเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะโศกการแสดงอันน่าเศร้าใจที่เกิดขึ้นกับสมเด็จพระทองคำกัลยา (เกรซ มหาดำรงค์กุล), ชะตาชีวิตของบุญทิ้ง หรือ พระราชมนู (ปีเตอร์ นพชัย) ด้านหลังเปลี่ยนเป็นตัวประกันในศึกนันทบุเรง รวมถึงไอ้ขาม (ศุภมือณ์ ธุระทองคำ) ชายบ้าใบ้ที่ได้เข้ามารับใช้มอบงานเป็นคชบาลร่วมกรำศึกที่เรื่องราวศาสตร
ตำนานสมเด็จพระพระมหากษัตริย์มหาราช 5: ยุทธหัตถี รวมหนัง พระนเรศวร ทุกภาค ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ไทยในระบบสตูดิโอที่ถ่ายทำ และบันทึกภาพด้วยฟิล์มภาพยนตร์เรื่องในที่สุดของเมืองไทยนะครับ ทำงานสร้างโดยพร้อมมิตรโปรดักชั่น และ สหมงคลฟิล์ม ระหว่างประเทศ ควบคุมโดยมจังหวัดชาตรีเฉลิม ยุคล แล้วก็ในส่วนของดารายังมีจักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, นภัสมือ มิตรเอม, สรดงษ์ ชาตรี, ฉัตรชัย เปล่งแสงพานิช และก็ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญก้าวหน้า ร่วมแสดง คลิกดูตัวอย่างด้านใน
ข่าวสารการเปลี่ยนรัชกาลของอยุธยาทราบไปถึงพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรง ท่านสำคัญว่าอาณาจักรไทยจะไม่เป็นปกตำหนิสุขเป็นช่องเชิญชิงเชิงก็เลยให้มังสามเกียดอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑากองทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีก ข้างสมเด็จพระกษัตริย์ฯทรงโปรดให้พระราชมนูเป็นทัพหน้าขึ้นไปมองกำลังศัตรูถึงหนองสาหร่าย ทัพหน้าพระราชมนูปะทะกับกองทัพประเทศพม่า แต่ว่ากำลังข้างพระราชมนูน้อยกว่าก็เลยแตกพ่ายแพ้ถอยลงมา สมเด็จพระพระราชาฯรู้ความก็เลยวางอุบายให้กองทัพศัตรูไล่กระเจิงลงมากระทั่งเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอกองทัพศัตรู คราวนั้นช้างทรงของสมเด็จพระพระราชาฯ
นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และก็ช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถยนต์เป็นเจ้าพระยาปราบไตรจักรต่างตกมัน วิ่งร่าเบกพลฝ่าเข้าไปในกองทัพประเทศพม่ามอญกึ่งกลางวงล้อมศัตรูและก็หยุดอยู่หน้าช้างพระมหาอุปราชา สมเด็จพระพระราชาฯ ก็เลยประกาศท้าทายพระมหาอุปราชแห่งหงสาให้ออกทำยุทธหัตถีเป็นพระเกียรติขั้นแก่แผ่นดิน ด้วยชาติขัตติยมานะพระมหาอุปราชาก็ไสพระช้างทรงออกทำคชยุทธด้วยสมเด็จพระพระราชาฯ ในตอนที่มังจาปะโร พระคนดูแลองค์สมเด็จพระมหาอุปราชได้ออกทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระเอกาทศรถยนต์สัประยุทธ์กันเป็นสองคู่ สู่มหาศึกคชยุทธ์ที่มีแผ่นดินเป็นพนัน
คราวหลังปล่อยให้รอมาแสนนาน หนัง “ตำนานสมเด็จพระกษัตริย์มหาราช 5: ยุทธหัตถี” ก็จะเข้าฉายโรงตอนท้ายวันที่ 29 พฤษภาคมนี้นะครับ แล้วก็ตัวอย่างหนังแรกก็เผยโฉมออกมาแล้ว หนังจะได้ผลสำเร็จสรุปของห้าภาคประเด็นนี้ ที่ดำเนินการสร้างมาอย่างนาน และนับจากภาคแรก “องค์รับประกันหงสา” ที่ออกฉายในม.ค.ปี 2550 ก็รวมแล้วกินช่วงฉายของทั้ง 5 ภาค ราว 7 ปีเศษๆครับ
เรื่องราวในภาคนี้ เรื่องราวสำคัญยังคงอยู่ที่การรบทัพจับศึกยุทธหัตถีอันเลื่องลือตามชื่อที่ผู้ชมจะได้แลเห็นพระปัญญาสามารถสามารถสำหรับในการกรำศึก ประดิษฐ์กลเม็ดเด็ดพรายสำหรับการรบ ความสามารถการคิดอ่านในกลเกมคิดแผนรบ รวมทั้งความเป็นอัจฉริยะ รวมทั้งความเชื่อมั่นในฐานะกษัตริย์ของสมเด็จพระกษัตริย์มหาราช (พ.ท. วันชนะ สวัสดี) ถึงแม้ผู้ชมจะได้รับทราบชะตาชีวิตของศิลปินอื่นเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะโศกการแสดงอันน่าเศร้าใจที่เกิดขึ้นกับสมเด็จพระทองคำกัลยา (เกรซ มหาดำรงค์กุล), ชะตาชีวิตของบุญทิ้ง หรือ พระราชมนู (ปีเตอร์ นพชัย) ด้านหลังเปลี่ยนเป็นตัวประกันในศึกนันทบุเรง รวมถึงไอ้ขาม (ศุภมือณ์ ธุระทองคำ) ชายบ้าใบ้ที่ได้เข้ามารับใช้มอบงานเป็นคชบาลร่วมกรำศึกที่เรื่องราวศาสตร
ตำนานสมเด็จพระพระมหากษัตริย์มหาราช 5: ยุทธหัตถี ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ไทยในระบบสตูดิโอที่ถ่ายทำ และบันทึกภาพด้วยฟิล์มภาพยนตร์เรื่องในที่สุดของเมืองไทยนะครับ ทำงานสร้างโดยพร้อมมิตรโปรดักชั่น และ สหมงคลฟิล์ม ระหว่างประเทศ ควบคุมโดยมจังหวัดชาตรีเฉลิม ยุคล แล้วก็ในส่วนของดารายังมีจักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, นภัสมือ มิตรเอม, สรดงษ์ ชาตรี, ฉัตรชัย เปล่งแสงพานิช และก็ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญก้าวหน้า ร่วมแสดง คลิกดูตัวอย่างด้านใน
King Naresuan 3 (2011) ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ยุทธนาวี
ในปีพ.ศ. 2127 การประกาศเอกราชที่เมืองแครง ทำให้พระผู้เป็นเจ้านันทบุเรงที่เมียนมาร์กำเนิดความพรั่นใจว่า อยุธยาในฐานะอาณานิคมในช่วงเวลานั้นกระทำการเช่นนี้บางทีอาจเป็นชนวนให้อาณานิคมอื่นๆตั้งตัวแข็งข้อตาม แม้กระนั้นด้วยติดศึกอังวะ ก็เลยส่งเพียงแค่พระยาพะสิมรวมทั้งพระผู้เป็นเจ้าจังหวัดเชียงใหม่เข้าใกล้ชิดกรุงศรีอยุธยา ช่วงเวลาเดียวกัน เจ้ากรุงแถวทางทิศตะวันออกของอยุธยา ได้รู้ชื่อเสียงของสมเด็จพระพระราชา
ก็เลยส่งพระศรีทองคำราเชนทร์ผู้น้องชายมาช่วยออกศึกกับเมียนมาร์ด้วย พระกษัตริย์แล้วก็กองทัพของท่านได้คิดแผนสำหรับเพื่อการแยกสายเข้าตีกองทัพของประเทศพม่านั้นโดย แข่งกับเวลา ถ้าช้าไปอยุธยาบางทีอาจแตกปราชัยก็เป็นไปได้ นอกจากนั้นยังมีศึกรักระหว่างรบของคนสี่คนหมายถึงพระราชมนู เลอขิ่น เสือหาญฟ้า รวมทั้งรัตทุ่งนาวดี รวมทั้งสถานะของพระทองคำนางงามที่บางทีอาจควรจะเป็นบาทบริจาริกาของพระผู้เป็นเจ้านันทบุเรง ผู้ราชลูกที่พระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วมสมัยก่อนสวามีอีกด้วย
ในปี พุทธศักราช 2127 สมเด็จพระพระราชาทรงสู้รบเพื่อกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยา การศึกเริ่มขึ้นเนื่องจากว่าพระผู้เป็นเจ้านันทากษัตริย์ที่อาณาจักรเมียนมาร์ (ไทย: กัมประเทศพม่า) ได้แอบตั้งใจจะทำศึกโดยส่งกองทัพสองกองทัพไปจู่โจมสมเด็จพระกษัตริย์ กองทัพแรกเป็นกองทัพของพระผู้เป็นเจ้าปะเต็นซึ่งผ่านด่านเจดีย์สามองค์ (ไทย: ด่านเจดีย์สามองค์) กองทัพลำดับที่สองเป็นกองทัพของพระผู้เป็นเจ้านรธาเมงสอที่ล้านนา (จังหวัดเชียงใหม่)
ซึ่งจู่โจมจากด้านเหนือของอาณาจักรอยุธยา กองทัพล้านนาหยุดรวมทั้งตั้งแคมป์ที่บ้านสระเกศา รวมหนัง พระนเรศวร ทุกภาค ตอนที่กองทัพทั้งคู่กำลังตระเตรียมออกศึกกับอยุธยาถัดไป พระผู้เป็นเจ้าลิเวก (ไทย: หลีก) ส่งพระผู้เป็นเจ้าจินจันตู (ไทย: จินจันตุๆ) เจ้าหน้าที่รัฐจีนมาสืบในอยุธยา แม้กระนั้นต่อไปไม่นาน ท่านก็เสด็จกลับกรุงเลิร์กเพราะเหตุว่าสมเด็จพระพระราชาทรงรู้ดีว่าท่านเป็นสาย ภายหลังจากการสู้รบทางแม่น้ำที่ร้ายแรงระหว่างกองทหารจีนของจินจันตูกับเรือปืนของไทยภายใต้คำบัญชาส่วนตัวของพระราชา เขาก็สามารถแอบหนีได้
เมื่อกษัตริย์ที่รักทราบเกี่ยวกับความสามารถแล้วก็ความรู้ความเข้าใจของพระพระราชา เขาตกลงใจที่จะเป็นผู้ช่วยเหลือกับอยุธยาโดยส่งพี่ชายที่ไม่เต็มใจของเขา พระราชโอรสศรีสุวรรณราเชนทร์ (ไทย: พระศรีทองราเชนทร์) เพื่อช่วยอยุธยาต่อสู้กับหงสาวดี (ไทย: หงสาวดี) ในช่วงเวลาที่พระกษัตริย์จัดเตรียมทำศึกทำสงคราม ท่านทรงใส่ใจว่าทหารในกองทัพอยุธยามีปริมาณน้อยกว่าเมียนมาร์ทั้งคู่กองทัพ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวท่านก็เลยตกลงใจแยกกองทัพไปรบก่อนที่จะทั้งคู่กองทัพจะมารวมกัน หนแรกทรงรบกับกองทัพพระผู้เป็นเจ้าปะเต็นทางทิศตะวันตกของกรุงศรีอยุธยา รวมทั้งทรงชนะศึกคราวแรกนี้ แล้วเคลื่อนพลมาตีกรุงศรีอยุธยาทางด้านเหนือ ภายหลังการสู้รบอย่างยากลำเค็ญ สมเด็จพระกษัตริย์มหาราชทรงเอาชนะกองทัพของพระผู้เป็นเจ้านรธามังสาวศรีที่ล้านนาได้ ภายหลังที่กษัตริย์นันทาบุเรงท่วมเสร็จศึกกับอินวะ (ไทย: อังวะ) ก็กลับมาทำศึกกับกรุงศรีอยุธยา สุดท้ายสมเด็จพระกษัตริย์ก็สามารถรักษาเอกราชของกรุงศรีอยุธยาไว้ได้
King Naresuan 2 (2007) ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 ประกาศอิสรภาพ
บุเรงท่วมเสียชีวิตในตอนต้นของภาพยนตร์ด้วยต้นสายปลายเหตุตามธรรมชาติ ธรรมราชาผู้สำเร็จราชการที่กรุงศรีอยุธยามั่นใจว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะจะต้องไปถวายบังคมกษัตริย์ที่สิ้นพระชนม์ เพราะว่าเกรงว่ากษัตริย์นันทาของประเทศพม่าองค์ใหม่จะเห็นว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามและก็จู่โจมกรุงศรีอยุธยา อย่างไรก็ดี สมเด็จพระกษัตริย์ทรงได้รับการอุปการะในพะวัว (อาณาจักรหงสาวดี) แล้วก็ทรงเชื่อถือบุเรงท่วมเป็นบิดาผู้ที่สอง ทรงคะยั้นคะยอให้ธรรมราชาปลดปล่อยท่านไปแทน
เมื่อมาถึงเมืองหงสาวดี (ในภาษาไทย) พระสงฆ์ชื่อกระจกส่องซึ่งเป็นอาจารย์ยุคเด็กของพระราชาได้แจ้งให้เขารู้เกี่ยวกับอันตรายที่กษัตริย์นันทาและก็กรุ๊ปต่างๆในเมียนมาร์กำลังคิดแผนลอบฆ่าท่าน ในงานฌาปนกิจศพของกษัตริย์บุเรงท่วม ผู้แทนทั้งสิ้นจากอาณาจักรข้าราชสำนักจะมาร่วมพิธีการด้วยนอกจากอาณาจักรกร่าง กษัตริย์นันทามีความเห็นว่าเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นแล้วก็ชุบมือเปิบก่อการศึกแล้วก็ล้อมเมืองบนยอดดอย
กองทัพอยุธยาของพระพระราชาบรรลุความสำเร็จสำหรับการยึดเมืองบนยอดดอยและก็พิสูจน์ตนเองว่าเหนือกว่ากองทัพเมียนมาร์ที่เป็นคู่ต่อสู้ เป็นพระผู้เป็นเจ้าที่แปรและก็ไม่งยีสวา (บุตรชายองค์โตของนันทาบายิน) คู่แข่งชาวประเทศพม่ายิ่งรู้สึกถูกรุกรามจากความแข็งแกร่งรวมทั้งความเฉลียวฉลาดของกองทัพพระกษัตริย์ ระหว่างการรบ บุนทิงเพื่อนพ้องของพระราชาซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นแม่ทัพฝีมือเยี่ยมในสังกัดของพระราชาตกหลุมรักเจ้าฟ้าหญิงที่เมืองกร่างซึ่งเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนของท่าน
กลยุทธ์ถูกเผยโดยสหายยุคเด็กของพระราชา ซึ่งเป็นผู้ดูแลชาวมอญสองคน ว่าโดยความเป็นจริงแล้วชาวเมียนมาร์ AllGame888 กำลังคิดแผนลอบฆ่าพระกษัตริย์ เมื่อทรงรู้ พระกษัตริย์ก็ประหารผู้คิดแผนและก็ประกาศกรุงศรีอยุธยาเป็นอิสระและก็อำนาจอธิปไตยจากพระผู้เป็นเจ้าหงสาวดี กษัตริย์นันทาและก็ชาวประเทศพม่าของเขาขุ่นเคืองรวมทั้งเริ่มการรณรงค์ด้านทหารเพื่อจับกุมแล้วก็ฆ่าสมเด็จพระกษัตริย์ก่อนที่จะกองกำลังของเขาแล้วก็ชาวประเทศไทยที่ได้รับการปลดปล่อยจะไปถึงแม่น้ำสิตโคนง สมเด็จพระกษัตริย์ทรงใช้กลอุบายถอนทัพกลับหนี กองกำลังของเขาสร้างสะพานไม้ผ่านแม่น้ำรวมทั้งต่อสู้กับกองทัพเมียนมาร์ที่ติดตามมา การต่อสู้หลายคราวเกิดขึ้นระหว่างการข้าม แต่ว่าเมื่อกองทัพประเทศพม่าไล่ทัน ชาวประเทศไทยรวมทั้งไพร่พลก็ผ่านไปอีกฝั่งหนึ่งแล้ว
ข้างประเทศพม่าจริงจังที่จะเอาชนะประเทศไทย เพียรพยายามติดตามกองกำลังของพระกษัตริย์โดยผ่านแม่น้ำ แล้วต่อจากนั้นกษัตริย์ก็เข้าเฝ้าโดยพระคุณครูคันฉายซึ่งเป็นที่เคารพยกย่องของเขา ตรงนี้เขาได้รับปืนคาบหินผาพิเศษที่สามารถยิงผ่านแม่น้ำได้ ตามประวัติศาสตร์ ภาพยนตร์แสดงภาพสมเด็จพระกษัตริย์ทรงยิงปืนคาบหินผาผ่านแม่น้ำสิตโคนง แล้วก็ฆ่านายพลที่กองทัพประเทศพม่าด้วยการจู่โจมเพียงแต่ครั้งเดียว กองทัพเมียนมาร์ก็ถอยกลับไปเมืองหงสาวดี สมเด็จพระกษัตริย์แล้วก็กองทัพไทยที่มีอิสรภาพมุ่งหน้ากลับกรุงศรีอยุธยาแล้วก็กษัตริย์ประกาศว่า ; “มันยังไม่จบ ยังมีงานให้พวกเราทำอีก
