gps trac king เทคโนโลยี Real-time GPS Tracking System เป็นคำตอบที่คุณมองหา gps […]
Tag: apple watch 3 gps tracking
เป็นวันแรกกับ Apple Watch Series 3 รุ่น
apple-watch-3-gps-tracking ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ eSIM ของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้แล้ว ทีมงาน iMod เกาะติดเหตุการณ์และได้เครื่องมาแล้วจึงต้องการทำรีวิวนี้เอาไว้ให้ดูกันครับ เพื่อจะเป็นข้อมูลรวมตัวกันการตกลงใจเพื่อใครหลายๆ คนว่า “จะซื้อรุ่น GPS ทั่วไป
หรือว่ารุ่นที่มี Cellular ดี?” พวกเราไปชมรีวิวนี้พร้อมๆ รีวิว Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular อิสระบนข้อมือที่จริงจริงที่ผ่านมาเมื่อ 27 ตุลาคม 2017 คณะทำงานได้เขียน รีวิว Apple Watch Series 3 GPS
เหนือขึ้นในทุกขั้น เอาไว้ให้ได้ดูกันแล้วหากผู้ใดยังมิได้อ่านก็แวะไปชมกันก่อนได้ หากกล่าวโดยย่อ รุ่นที่กำลังจะรีวิวนี้คุณลักษณะส่วนใหญ่
จะคล้ายกับรุ่น GPS แค่เพียงระดับความสามารถบางจุดที่เพิ่มเติมเข้ามาครับ โดยผมจะจุดโฟกัสไปที่จุดที่ผิดแผกแตกต่างและเป็นจุดสะดุดตาที่รุ่นนี้สามารถทำเป็นแล้วได้เพิ่มอีกในรีวิวนะครับผม
ทราบข้อความสำคัญที่จะรีวิวทั้งหมดทั้งมวลแล้วก็ไปอ่านพร้อมๆ กันได้ทันทีครับผม
แกะกล่อง Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular ตัวเรือนอะลูมิเนียมผมได้ Apple Watch Series 3 GPS + Cellular
รุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียม สีเทาสเปซเกรย์ พร้อมสายแบบ Sport Band สีเทา หนาดจอ 42mm มาใช้งาน มูลค่าของรุ่นนี้อยู่ที่ 15,900 บาท โดยนำมาใช้คู่กับเครือข่าย TrueMove H ที่ถือได้ว่าเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ให้บริการ eSIM ใช้งานร่วมกับ Apple Watch รุ่นนี้
รองรับการเชื่อมโยงผ่านเครือข่ายคำสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในตัวเครื่องมีระบบ eSIM ในตัว ที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายสัญญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่
ได้กับเครือข่ายที่รองรับทั่วทั้งโลกวัสดุตัวเรือนผลิตมาจากอะลูมิเนียม, สแตนเลสสตีลและเซรามิก(ราคาจะไม่เหมือนกันออกไป)มี GPS และ GLONASS ในตัวโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ที่เร็วทันใจขึ้น
ชิพไร้สาย W2 ช่วยให้เชื่อเรื่องมต่อกับเครื่องไม้เครื่องมือผ่าน Bluetooth อย่างหูยอมรับฟัง AirPods, ลำโพงไม่มีสายได้โดยตรงมาตรวัด
ความสูงแบบวัดความดันบรรยากาศใช้งานร่วมกับแท่นชาร์จ AirPower ได้ (เดี๋ยวนี้ที่เขียนรีวิวนี้วัสดุนี้ยังไม่เปิดซื้อขาย) จุดโดดเด่นของ Apple Watch Series 3 รุ่น GPS Cellular ที่ผิดแผกแตกต่างจากรุ่น GPS ปกติภายนอก
ถ้ามองจากภายนอกสิ่งที่บ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นรุ่นที่รองรับ Cellular ก็คือ ปุ่ม Digital Crown นั้นจะเป็นสีแดงและหน้าปัดนาฬิกา
(Watch Face) แบบพิเศษ apple-watch-3-gps-tracking คือเป็นภาพเข็มกล่าวขณะสีแดงและมุมบนซ้ายจะเป็นไอคอนโทรศัพท์เพื่อจะให้ไม่ยุ่งยากต่อการเข้าแอป Phone
ที่จะให้พวกเรากดเฟ้นโทรออกได้และที่มุมบนขวาจะมีไอคอนของแอปแผนที่ (Maps) ซึ่งพวกเราสามารถเลือกสถานที่เพื่อจะให้ระบบนำทางไปได้
ในแง่ของอุปกรณ์แม้ว่าจะใช้อะลูมิเนียมเหมือนกันในซีรีส์ Apple Watch และ Apple Watch Nike+ แต่ว่าฝาข้างหลังของรุ่น Cellular
นั้นจะทำด้วยเซรามิกให้ความสวยงามและทนทานมากขึ้น นอกเหนือจากนี้รุ่น Cellular นั้นจะมีตัวเรือนแบบสแตนเลสสตีลและเซรามิกให้คัดสรรค์ซื้ออีกต่างหากด้านใน
ส่วนระบบภายในที่เพิ่มเติมอีกเข้ามานั้นก็คือ รองรับ eSIM ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับข้อตกลงณโทรศัพท์มือถือได้ ส่งผลให้สามารถโทรออก รับสายและใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แม้ว่าจะมิได้อยู่ใกล้กับ iPhone อย่างเช่น
การรับส่งเนื้อความผ่าน iMessage, เพศหญิงมมิ่งเพลงจาก Apple Music, ใช้แอปแผนที่ในการสัญจรไปยังจุดหมายปลายทาง, ใช้งาน Siri ได้ถามตอบต่างๆ หรือสั่งให้เล่นเพลง, สั่งให้เปิดแอปอย่างแอปออกกำลังกายได้
เป็นต้นยิ่งกว่านั้นนี้ปริมาตรภายนั้นที่ให้มานั้นจะมากมายยิ่งกว่ารุ่น GPS ธรรมด้วย ซึ่งในรุ่น Cellular จะให้ปริมาตรมาทั้งปวง 16GB มากมายยิ่งกว่ารุ่นธรรมดาที่ให้มาเพียง 8GB เท่านั้น
ทั้งนี้สามารถดู เปรียบเทียบ Apple Watch Series 3 รุ่น GPS กับ GPS + Cellular แตกต่างกันเช่นไรได้เพิ่มเติมตรงนี้หลังจากที่ใช้งาน Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular นั้นประสบว่า
สะดวกเพื่อผู้ที่รักการออกกำลังกายไม่ว่าจะในร่มหรือกลางแจ้ง ยกตัวอย่างผมเองเป็นคนชอบวิ่งแต่เดิมจำเป็นจะต้องพก iPhone ไปด้วย
โดยจะต้องถ้าระเป๋าหรือซองรัดรอบเอวใส่ iPhone เอาไว้ เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับหูฟังทั้งแบบสายและไร้สายและติดตามการวิ่งด้วยการบันทึกระยะทาง ความเร็วทันใจ ฯลฯ
และเอาไว้รับสายเมื่อมีคนโทรเข้า ข้อขัดแย้งที่ตามมาคือเรื่องของน้ำหนักและการขยับขึ้นลงของซองใส่ iPhone ก็ส่งผลให้เสียโอกาสได้
โทรออกรับสายเมื่อกรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย ถือว่าดีงามมากๆ เลย ไม่ควรต้องถือ iPhone ให้เมื่อยอีกถัดไปเรื่องแบตเตอรี่ทนหรือเปล่า?
หากใช้งานปกติมิได้ออกกำลังกายเอาไว้แค่ชมขณะและดูการแจ้งเตือนเฉยๆ รุ่นนี้สามารถใช้งานได้เกิน 1 วันครับ เผลอๆ 2 วันถึงชาร์จทีนึง ถือได้ว่าแบตเตอรี่ออกจะทนครับ จากการพยายามใช้งานจริง ผมวิ่งระยะทาง 10 กม.
ใช้ขณะทั้งหมดทั้งมวล 1.08 ชม. แบตเตอรี่จาก 65% ลดน้อยลงเหลือ 38% สิ่งที่ผมเปิดใช้งานก็อย่างเช่นแอป Nike+ Run Club, รับฟังเพลงจาก Apple Music แบบเพศหญิงมมิ่งให้เสียงส่งไปยัง AirPods เมื่อวิ่งเสร็จแบตเตอรี่ยังเหลือแถมระวังวิ่งมีสายโทรเข้าก็สามารถรับสายคุยได้เลยครับ
ระบบจะปรับเองว่าจะใช้เน็ตจากมือถือหรือว่าผ่าน eSIM ในเครื่อง ข้อแรกผมก็ไม่สบายใจว่าตัวนาฬิกาจะเชื่อมต่อกับคำสัญญาณเครือข่ายตลอดเวลา
เลยหรือไม่ เนื่องมาจากหากเชื่อมต่อตลอดแน่นอนว่าต้องมีผลกับแบตเตอรี่ที่จะหมดอย่างไวกว่าปกติ แต่ทั้งนี้มาทราบรายละเอียดเพิ่มเติมว่านาฬิกา
จะเชื่อมต่อกับสัญญาณเครือข่ายก็ต่อเมื่อไม่สามารถที่จะติดต่อและทำการสื่อสารกับ iPhone ได้ ยกตัวอย่างเช่น พวกเราอยู่ห่างจาก iPhone เกินความจำเป็น ไหมก็พวกเราเปิด Airplane Mode บน iPhone แล้วต่อจากนั้นนาฬิกา
จะเชื่อมต่อสัญญาณโดยอัตโนมัติโดยทันที (ใช้เวลาโดยประมาณ 30 วินาที) โดยที่เราไม่ควรต้องทำอะไรเลยครับผม ส่วนนี้คือดีมากๆ ทั้งเรื่องการออมพลังงาน, เรื่องความสะดวกที่ไม่ควรต้องมากดปิด เปิดโหมด Cellular เอง
โทรออกรับสายได้ไม่มีข้อขัดข้อง ตราบเท่าที่พื้นที่นั้นๆ มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับความเข้าใจ (ทุ่งนาฬิกาจะบอกความแรงของสัญญาณโทรศัพท์ให้ด้วย) ก็ไม่ควรต้องกลัวจะพลาดการติดต่อและทำการสื่อสาร
โทรศัพท์เคลื่อนที่แบตหมดก็ยังโทรเข้าออกผ่าน Apple Watch ได้ ส่วนนี้ถือว่าดีงามเลย บางครั้งบางคราวพวกเราไม่ค่อยได้ใช้นาฬิกาส่งผลให้แบตยังเหลือๆ แต่บังเอิญ iPhone พวกเราแบตเตอรี่หมดซะงั้น ไม่ต้องกังวลไปอย่างน้อยคุณก็ยังโทรออกรับได้สายผ่านนาฬิกาบนข้อมือของคุณอยู่ดี
ความเร็วในการประมวลผล apple-watch-3-gps-tracking ถือว่าทำได้ดีและเร็วทันใจ ไม่ช้าสนองตอบได้ดี เปิดแอปได้เร็วซึ่งจุดนี้มีอิทธิพลอย่างยิ่ง เฉพาะบุคคลแล้วผมยกฐานะ