ดูซีรี่ย์ netflix Lost Bullet 2 แรงทะลุลูกปืน 2 หนังฝรั่งเศสแอคชั่นปี 2022 ที่ตำรวจจอมคดโกงมานะล้างแค้นชายที่ฆ่าพี่ชายของเขา มันเป็นภาคต่อของ Lost Bullet ในปี 2020 เจอกับความร้ายแรงในรูปภาพยนตร์แอคชั่นมากมายก่ายกอง รวมทั้งการต่อสู้ด้วยอาวุธแล้วก็อุปกรณ์ต่างๆจำนวนมาก การต่อย การเตะ ชายคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตด้วยปืนไรเฟิลในระยะติด การต่อสู้ด้วยมือไม่นำมาซึ่งการทำให้กระดูกหักและก็หัก มีภาพวัวลสอัพของชายคนหนึ่งที่มีรอยแผลฉกรรจ์รวมทั้งบริเวณใบหน้าเปรอะเลือด ศพ. ล่วงล้ำบ้าน. ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการไล่ล่ายานพาหนะมากมายก่ายกอง รวมทั้งฉากที่รถยนต์กลับแล้วก็ระเบิด ภาษาที่ร้ายแรงตลอด
ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ประเด็นนี้เองด้วย ในประเด็นนี้ก็รับหน้าที่อีกทั้งดารา สตันท์ และก็ปรับปรุงแก้ไขบทไปพร้อม เพื่อมันกับการโชว์คิวบู๊ของเรื่องที่เขาร่วมดีไซน์เองไปด้วย แต่ว่าหน้าที่ผู้กำกับกับเขียนบทยังเป็นของ Guillaume Pierret ตั้งแต่ภาคแรกจนกระทั่งภาคนี้ รวมทั้งคงจะตั้งอกตั้งใจทำภาคต่อล่วงหน้าไปด้วยเลย บางครั้งก็อาจจะยาวๆด้วยถ้าหากกระแสตอบรับจาก Netflix ยังค่อนข้างจะดีอยู่อย่างนี้
เรื่องราวภาคนี้ยังตลอดจากตอนสุดท้ายของภาคแรกแบบต่อกันเลย จนถึงเรียกว่าจะเป็นแถววิธีการทำซีรีส์เลยก็ได้ เพราะว่ารูปแบบของบทหนังในหัวข้อนี้ถูกวางไว้ให้เรื่องราวรุดหน้าไปไม่มากมาย แม้กระนั้นไปย้ำการให้รายละเอียดในขณะสั้นๆทั้งยังหน้าที่ดราม่าความแค้นของเรื่องที่ผู้แสดงนำชายสูญเสียน้องชายไปในภาคแรก กับหาทางยัดบทคิวบู๊ต่างๆลงไปในตอนเรื่องราวกับในช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะจำกัดเอามากๆ
ใน LOST BULLET 2 ลีโน (อัลบัน เลอนัวร์) เป็นตำรวจที่ลางานภายหลังจากทำการนอกชุดแต่งกายก่อให้เกิดการฆาตกรรมพี่ชายของเขา แทนที่จะพักฟื้น Lino อาศัยอยู่ในรถยนต์ของเขาแล้วก็ดูแลให้ Stella เมียม่ายของพี่ชายของเขาไม่เป็นอันตรายและก็ปลอดภัยจากผู้กระทำผิดกฎหมายที่ฆ่าผัวของคุณ ภายหลังหยุดการบุกรุกบ้านของสเตลล่าไม่นานลิโนก็ได้ศึกษาและทำการค้นพบเรื่องน่าตกใจ
ชายคนฆ่ามาร์โก (เซบาสเตียน เลเลน) น้องชายของเขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองป้องกันของตำรวจโดยหัวหน้าของเขาในฐานะผู้แจ้งร่องรอยอาชญากรรม ลิโนพบว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งเป็นที่ยอมรับมิได้รวมทั้งทำให้อาชีพของเขาจำต้องตกอยู่ในอันตรายด้วยการลักพาตัวมาร์โกโดยมีแผนในการจะพาเขาข้ามเขตไปยังประเทศสเปนเพื่อรับความถูกต้องที่เขาควรได้รับจากข้าราชการตรงนั้น เดี๋ยวนี้ จูเลีย อดีตกาลคู่ซี้ของเขา (สเตฟาย เซลมา) กำลังตามล่าลิโน รวมทั้งเป็นการไล่ล่าอย่างหมดกำลังใจจนกระทั่งชายแดน
ภาคต่อของ Lost Bullet ภาคแรกภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นภาคต่อของ Lost Bullet (แรงทะลุลูกกระสุนปืน) ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2020 ซึ่งในภาคนี้จะเล่าต่อจากภาคแรกแบบติดๆภายหลังที่ผู้แสดงนำชายของพวกเราอย่าง Lino (รับบทบาทโดย Alban Lenoir) ได้หารถที่เป็นหลักฐานกลับมาได้เสร็จ แม้กระนั้นผู้แสดงนำชายยังคงค้างคาใจด้วยเหตุว่าต้นตอที่ฆ่าสหาย รวมทั้งน้องชายของเขายังคงหนีไปได้
เขาก็เลยทุ่มเททั้งหมดทุกอย่างเพื่อโคลนจับกุมมัน ดูซีรี่ย์ netflix ภายหลังจากผ่านไป 6 เดือน Julia (สวมบทโดย Stefi Celma) ก็ได้มาเชิญเขาให้กลับเข้าหน่วยไล่ล่าพวกค้ายาอีกที ตราบจนกระทั่งวันหนึ่ง Lino ได้ทราบว่าโดยความเป็นจริงแล้ว Marco (สวมบทบาทโดย Sébastien Lalanne) ผู้ที่ปลิดชีพน้องชายเขาในภาคแรกนั้นมิได้ล่องหนไป แม้กระนั้นเขาถูกตำรวจกันไว้เป็นผู้เห็นเหตุการณ์
ดูซีรี่ย์ netflix ซีรี่ย์มากมาย มาใหม่อัพเดททุกวัน
The Midnight Club ชุมนุมสยองขวัญเที่ยงคืน วัยรุ่นผู้เจ็บป่วยระยะในที่สุด 8 คน สมาชิกของสโมสรสยองขวัญเที่ยงคืน ในแต่ละคืนพวกเขาจะเปลี่ยนกันเล่าสยองขวัญ พร้อมทำข้อตกลงด้วยกันว่าถ้าหากมีผู้ใดผู้หนึ่งในกรุ๊ปตาย คนๆนั้นจำต้องทำทุกวิธีเพื่อกลับมาบอกผู้ที่เหลือว่าโลกหลังความตายเป็นยังไง ผลิตจากหนังสือนวนิยายชื่อเดียวกันของ คริสโตเฟอร์ ไพก์ (Christopher Pike) ส่วนเวอร์ชันซีรีส์สร้างโดย ไมค์ ฟลานาแกน (Mike Flanagan) ร่วมกับ ลีอาห์ ฟง (Leah Fong)
เรื่องราวของเหล่าคนไข้อีกทั้ง 8 ผู้ที่เป็นพวกของสัมพันธ์สยองขวัญเที่ยงคืนในคฤหาสน์อันลึกลับทุกเที่ยงคืน เพื่อเล่าราวสยองขวัญ อันน่าสยองเพื่อตามหาสัมผัสเหนือธรรมชาติ โดยการทำกติกากันว่าถ้าหากคนใดตายก่อน ต้องหาทางติดต่อผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จากโลกหลังความตายบทกล่าวนำก่อนจะเล่าทุกหนของคนป่วยอีกทั้งแปดคนรวมตัวกันในสมาคมสยองขวัญเที่ยงคืน ผ่านรื่องเล่าอันผาดโผน นำพาสมาชิกไปสู่เรื่องราวสุดพิศวง ชักชวนสงสัย ทุกเรื่องเล่าต่างผสมปนเปเรื่องราวของตัวเอง
สะท้อนความรู้สึกนึกคิดก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก่อนจะมาอยู่ใน ดูซีรี่ย์ netflix สถานที่ดูแลไบร์ทคลิฟฟ์ ส่วนตัวรู้สึกตระหนกตกใจในตอนแรกที่ใส่ Jump Scare มาราวกับแดกดัน แต่ว่าก็เป็นอะไรที่ฮาดี บันเทิงใจไปกับการเล่าเรื่องที่ถูกสอดแทรกอยู่เนืองๆเรื่องเล่าที่ถูกซ่อนเร้นไว้มันทำให้พวกเรารู้สึกถึงนักแสดงแล้วก็สงสัยในเรื่องราวเยอะขึ้นเรื่อยๆมิได้น่าขนลุกแม้กระนั้นเชิญสงสัยมากยิ่งกว่ากับเงื่อนที่ถูกทิ้งเอาไว้ ซึ่งมีทั้งๆที่ถูกเหมือนรวมทั้งที่ผิดคลาย
ความตายที่ไม่บางทีอาจหลีกลี้เรื่องที่ถูกเล่า บทสนทนาของผู้แสดงนั้นต่างทิ้งความเป็นปรัชญาไว้ เอ่ยถึงความตายที่ไม่บางทีอาจหลีกลี้แต่ว่าก็ไม่บางทีอาจหยุดดิ้นรน สำหรับเราคิดว่าผู้แสดงไม่ดิ้นรนในความตายน่ะสิแปลกเพราะเหตุว่าพวกเขาต่างเป็นวัยที่ยังมีความต้องการ แรงยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งถือว่าเป็นการได้มองเห็นการวิวัฒนาการของแต่ละนักแสดงจากช่วงแรกจนกระทั่งช่วงท้าย การนำเสนอทั้งคู่ข้อความสำคัญได้อย่างทัดเทียม มิได้จำยอมต่อความตายจนกระทั่งเซื่องซึม
แต่ว่าก็มิได้ดิ้นรนกระทั่งราวกับเพียรพยายามเกินเหตุซีรีส์สยองขวัญต้อนรับฮาโลวีนเรื่องใหม่ปัจจุบันจาก Netflix สร้างโดยปรับเปลี่ยนมาจากนิยายของไพก์ แล้วก็ดูแล 2 ช่วงแรกโดยผู้กำกับที่ขึ้นชื่อลือนามเรื่องผลงานสยองขวัญลึกลับอย่างฟลานาแกน ส่วนตอนอื่นๆเขาจะเข้ามามีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการเขียนบทกับผู้เขียนคนอื่นๆแต่ว่ามิได้นั่งแท่นดูแล นอกนั้นยังได้ดาราวัยรุ่น 8 ผู้ที่น่าเฝ้าดูมาสร้างสีสันในเรื่องด้วย เนื่องจากค้างแรกเตอร์ของแต่ละคนนั้นผิดแผกมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกันอย่างยิ่งจริงๆ
เริ่มกันที่ อิมาน เบนสัน (Iman Benson) สวมบทบาทอีทดลองก้า เด็กหญิงผู้เปี่ยมไปด้วยความฝัน อนาคตของคุณแจ่มใส มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกำลังรออยู่ แม้กระนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนเมื่อคุณพบว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งรวมทั้งการดูแลรักษาตลอดเวลา 9 เดือนก็ไม่ช่วยอะไร จนตราบเท่าคุณได้เจอกับข้อมูลบางสิ่งที่สถานที่ดูแลไบรท์คลิฟท์ คุณก็เลยกลับมามีหวังอีกรอบยิ่งกว่านั้นยังมี อิกกี้ ริกนีย์ (Igby Rigney) เล่นบทเควินผู้เข้าอกรู้เรื่องอีทดลองก้าแล้วก็มักให้กำลังใจคุณเสมอ, อันทุ่งนารา ซีความสงบ (Annarah Cymone)
สวมบทบาทแซนดร้า เด็กผู้หญิงผู้เคร่งศาสนา, รูธ คอดด์ (Ruth Codd) เล่นบทอันยา พี่ใหญ่ในสถานที่ดูแลไบรท์คลิฟท์ที่มักอารมณ์บูด กระทบกระแทกแดกดัน รวมทั้งจิกกัดคนอื่นตลอดระยะเวลา, เอเดีย (Adia) สวมบทบาทเชอรี เด็กหญิงที่เพื่อนฝูงๆต่างกล่าวว่าเรื่องเล่าจากปากคุณจำเป็นต้องเอาพันไปพบร, คริส ซัมป์เตอร์ (Chris Sumpter) เล่นบทประเทศสเปนเซอร์ เด็กวัยรุ่นผู้มีเงื่อนอีกทั้งเรื่องแม่แล้วก็โรคร้ายที่เขาเป็น, อายะ ฟุรุคาวะ (Aya Furakawa) เล่นบทนัตสึกิ สาวประเทศญี่ปุ่นผมผู้เป็นมิตร
และก็ ซอเรียน ซัปวัวตา (Sauriyan Sapkota) สวมบทอาเมช ดูซีรี่ย์ netflix หนุ่มน้อยเกมเมอร์The Midnight Club’ โปรโมตด้วยประโยคเด็ด “เมื่อความตายเป็นพิธีบูชาการเปลี่ยนผ่าน” พวกเราจะได้มองเห็นการต่อกรกับลักษณะการป่วย ความคาดหวัง รวมทั้งความท้อแท้ ผ่านนักแสดงเด็กหนุ่มสาวทั้งยัง 8 คน ในขณะที่เป็นช่วงๆวัยที่ควรเปี่ยมพลังแล้วก็มีอนาคตแจ่มใส
แต่ว่าพวกเขากลับจะต้องมาอยู่ที่สถานที่ดูแลที่นี้ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็น “ช่องทางในที่สุด” แบบเปลี่ยนๆแต่ละคนมีเงื่อนชีวิตของตนเอง พวกเขามีหวังแล้วก็ความฝันของตนเอง ซึ่งซีรีส์มิได้เล่าแบบแออัดยัดเยียดแม้กระนั้นพาพวกเราไปสัมผัสกับผู้แสดงแต่ละตัวแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วก็เป็นธรรมชาติ ผ่านเรื่องเล่ายามเที่ยงคืนของแต่ละคน รวมทั้งผ่านบทสำหรับพูดรวมทั้งกิจวัตรที่ทำเป็นประจำของพวกเขาในเวลาธรรมดาด้วย
Athena อเธน่า
เรื่องราวเริ่มดูเหมือนจะสงบนิ่งต่อการจากไปของน้องชายของ Abdel ที่กำลังยืนแถลงข่าวโดยมีตำรวจรวมทั้งนักการเมืองประชิดข้าง เขาพูดว่ากำลังรอคอยข้างตำรวจสอบปากคำเพื่อนำตัวคนฆ่าน้องชายเขามารับโทษ แล้วก็ขอให้ผู้คนอยู่ในความสงบเงียบ “เพื่อรำลึกถึง Idir เพื่อน้องชายผม ขอให้ทุกคนอยู่ในความเงียบสงบ พวกเราจะจัดงานเดินระลึกในวันพรุ่ง” Abdel กล่าวจบท้าย แต่ว่าภายใต้ความเงียบอันเสียใจนั้น ยังมี Karim และก็ฝูงชนแบบใหม่ที่อเธน่าที่สะสมความแค้นที่ล้นหลามเอาไว้
เขาตกลงใจประเดิมปะทะกับกองตำรวจด้วยการโยนขวดน้ำมันติดไฟแล้วบุกในโรงพักเพื่อลักขโมยเอกสารแล้วก็อาวุธ และก็นับจากหนังเปิดเรื่องมาในขณะ 10 นาทีแรก ความเดือดระทึกแบบไม่มีพักก็เกิดขึ้นแบบตลอดโดยไม่มีสั่งคัตถึงแม้มนต์ดีเลิศในโลกภาพยนตร์ที่สะกดความพอใจให้แก่ผู้ชมอย่างวิธีการถ่ายแบบสม่ำเสมอในหนึ่งเทค หรือที่เรียกกันกล้วยๆว่า Long Take จะไม่ใช่ของใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้น แต่ทว่ามันเกิดขึ้นแบบแจ่มกระจ่างคราวแรกตั้งแต่ปี 1948 ในรูปภาพยนตร์เรื่อง Rope ของ Alfred Hitchcock แม้กระนั้น Athena
ก็เลือกใช้วิธีนี้สำหรับในการเล่าของการศึกขนาดเล็กนี้ ดูซีรี่ย์ netflix และก็หากว่าสเกลของการถ่ายทำแบบ Long Take จะไม่ยิ่งใหญ่เท่า The Revenant (2015) หรือ 1917 (2019) แต่ว่าก็ถือได้ว่าเป็นความกล้าหาญชาญชัยของคณะทำงานที่นำเอามุมมองที่เกี่ยวกับการบ้านการเมือง เชื้อชาติ รวมทั้งความเท่าเทียมกัน ที่มันสนิทสนมกับบริบทแบบเดี๋ยวนี้อย่างมากมาย มานำเสนอด้วยเคล็ดวิธีที่มั่นใจว่ามันจะมีผลให้มองเหมือนจริงมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อการประชุมคัดค้านเปลี่ยนเป็นปัญหาภายในสังคมในยุคนี้การประชุมต่อต้านเปลี่ยนเป็นปัญหาภายในสังคมที่เชื่อมโยงกับทุกมิติทางด้านสังคมไปด้วย ซึ่งในประเทศฝรั่งเศสเองก็มีการต่อต้านสม่ำเสมอนาน ต่อต้านในดูเหมือนจะทุกเรื่อง ซึ่งนับว่าเป็นสิทธิขั้นต้นของสามัญชนตามระบบประชาธิปไตย แม้กระนั้นสิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือการต่อต้านที่แผ่ขยายแย่ลงกว่าเดิมเปลี่ยนเป็นอลหม่านอยู่บ่อย ซึ่งในไทยเองก็ตามรอยมาติดๆด้วยเหมือนกัน ตัวหนังประเด็นนี้ทางผู้ผลิตก็เลยเสมือนปรารถนาเซ็ตเลียนแบบเรื่องราวกระตุกสังคมให้มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเอาจริงเอาจัง
ตัวเรื่องเปิดมาก็เป็นไม่มีปูอะไรให้ผู้ชมได้มองเห็นคลิปที่มาของเรื่องที่ว่าเลย แต่ว่าเป็นการที่คนคัดค้านบุกโรงพักเพื่อลักขโมยปืน ก่อความร้ายแรง เอาชุมชนที่พักที่อาศัยในเขตนั้นที่เป็นชุมชนเสียอยู่แล้วมาเป็นป้อมต่อสู้กับตำรวจ โดยสร้างเงื่อนไขให้เอาคนผิดมาประหาร แม้กระนั้นตำรวจก็ยืนกรานว่าเป็นพวกขวาจัดที่เลียนแบบเป็นตำรวจ โดยมีตัวแกนนำเป็นพี่ชายสองคนของน้องที่ตายไป แล้วเลือกยืนคนละฝั่ง คนหนึ่งมานะช่วยตำรวจหาคนผิดเพื่อม็อบสงบ อีกคนมานะปลุกปั่นความร้ายแรงเพื่อตำรวจดำเนินการ
ซึ่งทั้งยังเรื่องเกือบจะไม่มีเรื่องราวราวอะไรมากยิ่งกว่านี้ ดูซีรี่ย์ netflix จะเรียกว่าเกือบจะกลวงโบ๋เลยก็ได้ เนื่องจากแทบจะไม่มีข้อความสำคัญอะไรให้มองเห็นแตะต้องได้จริงๆเว้นเสียแต่เพียงแค่ความหัวร้อนของผู้แสดงในเรื่องที่ไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไรประเด็นนี้ก็มีลักษณะเด่นอยู่ที่การเลียนแบบฉากเรื่องคัดค้านร้ายแรงตลอดปะทะกับตำรวจได้อย่างน่าดึงดูด ตั้งแต่ฉากแรกที่เป็นการบุกโรงพักทำลายสินทรัพย์ชิงทรัพย์สิ่งของเครื่องใช้อาวุธของตำรวจไปตั้งป้อมทำม็อบ หรือฉากการเผชิญหน้าตบตีกันในเรื่อง ที่ข้างตำรวจก็มีตะบอง ลูกกระสุนยาง
ม็อบมีดอกไม้เพลิงไฟ ขวดระเบิดเพลิง ตัวหนังสร้างฉากเหล่านี้ออกมาสม่ำเสมอ กระทั่งเรียกว่าเกือบจะแทนการเดินเรื่องจริงๆไปเลย และทำออกมาได้บีบคั้น มีอารมณ์ปะทุ เพ้อคลั่ง เมื่อยล้า ความหวาดกลัว ของทั้งสองฝ่ายแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งหากคนไหนกันแน่มีระบบระเบียบเสียงแยกแนวทางนี่ยิ่งดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยเหตุว่าเสียงเล็กๆน้อยวิ่งไปๆมาๆโกลาหลมากมาย
ซึ่งตัวเรื่องก็อุตสาหะทำฉากกลุ่มนี้ออกมาให้ไม่เหมือนกัน เป็นทั้งยังการเลียนแบบยุทธวิถีต่อสู้ของตำรวจกับม็อบ การจับรับรองมาต่อรองไปจนกระทั่งการวางระเบิดด้วยถังแก๊ซในครอบครัว จนกระทั่งราวกับหนังที่อยากได้ขายความร้ายแรงสาแก่ใจออกมาให้มองเห็นมากยิ่งกว่าการสะท้อนสังคมถึงปัญหาม็อบรวมทั้งเนื่องจากว่าเรื่องเกือบจะเสนอแม้กระนั้นฉากการประจันหน้ากันของม็อบกับตำรวจ
ช่วงท้ายเรื่องก็เลยเสมือนมานะหาทางลงซุกซนๆตัวเรื่องก็เลยจบลงแบบง่ายๆตบท้ายไว้ด้วยความร้ายแรงนิดหน่อยจบท้ายก่อนที่จะฉายคลิปที่คือปัญหาให้มีความเห็นว่าคืออะไร และก็เฉลยคำตอบแบบเสนอแนะเลยว่า ความร้ายแรงแบบในเรื่องอาจจะมีการเกิดได้ไม่ยากจากมือที่ 3 โดยมีโซเชียลมารอผลักดันให้เรื่องราวอย่างนี้เกิดขึ้นได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเรื่อยด้วยเหมือนกันผลงานของผู้กำกับ
“โรแมง มึงฟราส” ที่จำเป็นต้องกล่าวว่าไม่ค่อยคุ้นกับผลงานสักเท่าไหร่ ดูซีรี่ย์ netflix เนื่องจากว่าเขาเองก็พึ่งดูแลหนังยาวมาก่อนหน้านี้เพียงแค่ 2 เรื่อง บางครั้งอาจจะคุ้นๆกับ The World Is Your แต่ว่าก็ยังไม่มีจังหวะได้มอง สไตล์งานของผู้กำกับรายนี้ชอบจับเอาข้อความสำคัญดราม่าอาชญากรรมมาเล่นอยู่เสมอๆแล้วก็การมาของ Athena ก็ดูอย่างกับว่าจะยังไม่ทิ้งลวดลายแบบเฉพาะของเขาเป็นต้นว่าเดียว
The Jeffrey Dahmer Story
เรื่องราวของเจฟฟ์ เจฟฟีย์ ดาห์เมอร์ ดูหนังฟรี ฆาตกรโรคจิตของประเทศอเมริกา ที่ความกล้าหาญสุดชั่วร้ายตั้งแต่เชือดเนื้อของเหยื่อมากินเป็นของกิน ฆ่าหั่นศพ กลับรอดคดีแล้วก็การตามจับกุมของตำรวจตั้ง 13 ปี ซึ่งมีส่วนอ้างอิงมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงชายผู้คลั่งไคล้สำหรับการฆ่า กระทำชำเรา และก็กินส่วนประกอบมนุษย์ ด้านในปี 1978 – 1991 เขาได้ฆ่าคนบริสุทธิ์แล้วก็นำองค์ประกอบมาเฉือนสูงถึง 17 คน!!คำบอกเล่าในที่สุดของเขา “ความสุขทางเพศของผมก็คือการได้เข้าไปตรวจสอบภายในร่างกายพวกนั้น ผมดูพวกเขาเป็นเสมือนข้าวของ คนที่ไม่รู้จัก มันช่างน่าเกินจริงกับสิ่งที่ผมทำกับมนุษย์ร่วมกัน” – Jeffrey Dahmer-
เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ เกย์กินมนุษย์ที่เป็นคดีความที่มีชื่อเสียง เป็นคนร้าย ที่นักจิตวิทยาอาญามีความสนใจอย่างใหญ่โต สำหรับการอุปถัมภ์ลูกแล้วก็สาเหตุของความเปลี่ยนไปจากปกติของการเสพติดการกินเนื้อคนหนังเล่าราวละเอียดมากๆสะท้อนความจริงของการเป็นเกย์ในสังคมแล้วก็สังคมของการเหยียดเพศที่ปฏิเสธเพศลำดับที่สามในประเทศประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ที่พวกเราเห็นความนึกคิดอีกทั้งในเลนดูของเหยื่อรวมทั้งในมุมมองของคนร้ายเหมือนพวกเรากำลังรับดูสารคดีครึ่งหนังในเรื่องรางของเจฟฟีย์ ดาห์เมอร์
คนร้ายสุดโหดเหี้ยมที่ฆ่าคนแล้วลอยนวลมาได้ถึง 13 ปีเลยซึ่งเหยื่อส่วนมากของเขาก็มีแม้กระนั้นเกย์ผิวสี ฉากที่คนเขียนถูกใจที่สุดเป็นฉากที่ชาวเกย์พบกันใน Disco ก่อนที่จะเสียงดนตรีจะตัดไปสู่ความเงียบ รวมทั้งเพศชายสองคนคุยกันผ่าน Body Language แทนราวกับเป็นการเสียดสีสังคมว่าความรักของเกย์เกิดเรื่องที่ไม่มีตัวตน แล้วก็จำเป็นต้องประพฤติตนเฉยๆไม่มีเสียง และไม่ถูกเห็นด้วยในสังคม กระทั่งนำพามาสู่การฆาตกรรมสม่ำเสมอภายใต้ระบบการทำงานที่ล้มเหลวของตำรวจอย่างงี้
จากข้อเท็จจริงของคนร้ายกินมนุษย์ ดูซีรี่ย์ netflix ประเด็นนี้สร้างขึ้นจากความจริงของคดีฆาตกรโรคจิตสมญานามมนุษย์กินมนุษย์ของอเมริกาที่ดังที่สุด ซึ่งก็เคยมีทำออกมาก่อนหน้านั้นแล้วเป็นสารคดีแล้วก็เวอร์ชั่นหนัง ซึ่งย้ำที่เรื่องของตัวคนร้ายโดยตรง แม้กระนั้นประเด็นนี้ต่างออกไป เกิดเรื่องราวหลายมุมมองของคดีนี้ จากตัวผู้ที่เกี่ยวพันจริงๆอย่าง คนเป็นเหยื่อรวมทั้งครอบครัวของเหยื่อ บิดามารดา เพื่อนบ้าน รวมทั้งตัวเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ จากทั้งยังก่อนจะถูกจับ และก็ข้างหลังถูกจับวินิจฉัยอยู่ในตาราง ที่เขาเปลี่ยนเป็นคนมีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกาในตอนนั้น
เรื่องราวในซีรีส์เริ่มจากในช่วงเวลาที่เขากำลังก่ออาชญากรรมในที่สุดก่อนจะบกพร่องแล้วก็โดนตำรวจจับไว้ได้ เป็นการปูเรื่องราวที่เริ่มจากคำกล่าวให้การของเขา ซึ่งเป็นคนร้ายที่ยอมรับทุกๆอย่างที่ทำลงไป มีบัตรประจำตัวประชาชนของเหยื่อที่เขาเก็บสะสมไว้ครบ เรื่องราวในคดีนี้ก็เลยมิได้มีคนตกหล่นหายไปไหน และก็เป็นการเริ่มเรื่องย้อนกลับไปยังอดีตกาลตอนเด็ก ตรวจว่าอะไรเพราะอะไรเขาก็เลยเปลี่ยนมาเป็นคนร้ายได้ ซึ่งตัวอีวาน ปีเตอร์ส เล่นเองทั้งหมดทั้งปวงตั้งแต่เด็กมัธยมจนกระทั่งวัยทำงาน
(ละเว้นเพียงแค่ตอนประถมที่ใช้ดาราหนังเด็กสั้นๆ) ก็บางครั้งก็อาจจะมองแปลกๆนิดเดียวที่ดาราโตกว่าวัยเรียนมากมาย แม้กระนั้นก็หยวนๆพอเพียงละเลยได้ เพราะเหตุว่าเรื่องต้องการที่จะให้มองเห็นความก้าวหน้าชีวิตของเขา ซึ่งรวมๆเป็นครอบครัวขาดความอบอุ่น บิดามารดาไม่อยู่ดูแลลูก กระทั่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการตัดสินใจชีวิตที่บกพร่อง และจากนั้นก็แปลงเป็นจุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมจากไม่ตั้งใจ เปลี่ยนมาเป็นรสนิยมฆ่าเหยื่อแล้วเปลืองที่เขาเองห้ามตนเองมิได้ในประเด็นนี้ไม่ได้มีการถ่ายทอดเนื้อหาความเหี้ยมโหดอำมหิตของคดีสิ่งเดียว
แม้กระนั้นชี้ให้เห็นว่าที่จริงแล้วดาห์เมอร์เองก็ไม่ใช่ ดูซีรี่ย์ netflix ฆาตกรต่อเนื่องแบบรายอื่นๆที่มักเป็นแค้นเมื่อโดนจับ หรือเป็นสุขกับการเล่าเรื่องต่างๆแม้กระนั้นตรงกันข้ามเลยเขาเป็นคนมีระเบียบเรียบร้อย ร่วมมือกับตำรวจทุกสิ่งทุกอย่าง มีความรู้สึกไม่ถูกกับสิ่งที่ทำลงไป ไม่ต่อสู้คดีว่าตนเองบ้าหากแม้ทนายความจะอยากที่จะให้ทำ สิ่งที่ซีรีส์ให้มองเห็นเกือบจะเป็นการฟอกตัวให้ผู้ชมรู้สึกแอบเห็นอกเห็นใจเขาอยู่บ้าง ซึ่งนับว่าแปลก แต่ว่าซีรีส์ก็ซื่อสัตย์ต่อเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้นครับผม รวมทั้งตัวอีวานเองก็เล่นได้อย่างน่าสงสารตามเรื่องตามราวที่เกิดขึ้นจริงนี้ด้วย
ดูแล้วรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขามากยิ่งกว่า เพราะเหตุว่าตอนสุดท้ายของดาห์เมอร์เองในเรือนจำก็ไม่สวยนัก ถึงแม้เขาจะอุตสาหะดำรงชีวิตตามมีตามเกิดให้ยอดเยี่ยมในขณะนี้และตามตัวซีรีส์ยังมีตัวละครสำคัญอีกผู้ที่เล่าคู่กันไปตลอดเรื่อง เกลนเกล็นด้า คลีฟแลนด์ เพื่อนบ้านผิวดำห้องชิดกันที่ต่อสู้เพื่อความเที่ยงธรรม ซึ่งคุณโทรแจ้งถึงความไม่ปกติต่างๆที่เกิดขึ้น ตั้งแต่กลิ่นเหม็นอย่างแรงโชยผ่านช่องลม เสียงร้องวิงวอน จนถึงพบกับเหยื่อเด็กอายุ 14 ชาวลาวที่หนีออกมาจากห้องของดาห์เมอร์แล้วมาสลบหน้าที่พัก
คุณมานะบอกตำรวจให้เอาเด็กไปที่อื่นๆ แม้กระนั้นตำรวจกลับเชื่อดาห์เมอร์ว่าเป็นแฟนโฮโมของเขา รวมทั้งทำให้เด็กคนนี้เป็นเหยื่อที่อายุน้อยสุดของดาห์เมอร์ ซึ่งเปลี่ยนเป็นจุดสำคัญของเรื่องราวปัญหาความเป็นธรรมในอเมริกาที่เกิดขึ้นอยู่กับคนผิวดำที่ถูกไม่มีความสนใจมีความสนใจ อีกทั้งการเป็นเหยื่อหรือแจ้งเรื่องราวต่างๆก็ถูกไม่ให้ความสนใจไปซะหมด ซึ่งนี่เป็นจุดที่ซีรีส์หัวข้อนี้ปรารถนาเผยเยอะที่สุด เป็นต้นเหตุจริงๆที่ทำให้ดาห์เมอร์ก่ออาชญากรรมตลอดได้มากถึง 17 ราย ตัวเกลนเองนอกเหนือจากที่จะเกิดเรื่องราวแทรกตั้งแต่ตอนดาห์เมอร์ยังผิดจับก็มีต่อเป็นตอนแยกโดดเดี่ยว
ไปจนกระทั่งตอนสุดท้ายของซีรีส์เลยที่คุณพากเพียรตั้งอนุสาวรีย์เหยื่อเพื่อผู้คนระลึกจำได้ถึงปัญหาคนผิวดำถูกเฉยเมยที่เกิดขึ้น รวมทั้งผลพวงทางด้านจิตใจที่ประจำตัวคุณไปตลอดชาติยิ่งกว่านั้นแล้วซีรีส์ก็ยังย้ำเรื่องบิดาของดาห์เมอร์ที่มีส่วนสำคัญให้เกิดเหตุราวนี้ขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ตัวเรื่องชี้ให้เห็นว่าเขาเองก็คือปัญหาหนึ่งของเรื่องเมื่อทำแต่งาน มีภรรยาน้อยกระทั่งบ้านแตก และก็เมื่อรับทราบว่าลูกชายเปลี่ยนเป็นคนร้ายแล้ว เขาก็เองก็บากบั่นหาต้นเหตุไปแตกต่างกันไปกระทั่งท้ายที่สุดก็แต่งหนังสือจากมุมมองของเขาเอง
ที่ตั้งจิตใจถ่ายทอดให้บิดามารดาผู้อื่นมองเห็นสัญญาณไม่ปกติเพื่อคุ้มครองการเกิดขึ้นอีก แต่ว่าก็แปลงเป็นโดนกล่าวหาทำมาหากินกับเหยื่อในเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนถึงหนังสือก็ขายไม่ดี และก็ยังโดนตัดผลกำไรกลับไปให้เหยื่อสถานที่รวมตัวกันฟ้องปิดทางได้กำไรจากประเด็นนี้ไว้ด้วยความจริงสุดสยดสยองยิ่งไปกว่านี้ก็มีตอนแยกของเหยื่อหลักๆอย่างคนแรกที่ดาห์เมอร์ลงมือฆ่าอย่างไม่ตั้งใจ เรียกว่าคนโบกรถยนต์
ซึ่งกำเนิดในยุคเขาเป็นเด็ก ก่อนจะผ่านไปยาวนานหลายปีกำเนิดกับบุคคลอื่นถัดมา ดูซีรี่ย์ netflix ซึ่งมีคดีที่ทำให้เขาถูกลงโทษคุมพฤติกรรม 1 ปีกับคดีวางยาล่วงเกินชายหนุ่มคนหนึ่งที่บกพร่องหนีไปได้ ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยตอกย้ำซ้ำเติมว่าปัญหาเริ่มตั้งแต่ในเวลานั้นแล้วถึงแม้เขามีความผิดประจำตัว แม้กระนั้นตำรวจที่รับเรื่องจากเกลนเพื่อนบ้านที่โล่งมาก็ไม่ตรวจดูเขาเลย เพราะเหตุว่าเป็นชายผิวขาวที่เสมือนสิทธิพิเศษชนของอเมริกา ถึงแม้ว่าจะตำรวจที่ปล่อยทิ้งนิ่งเฉยกลุ่มนี้ก็ลอยนวลแทบจะมิได้ต้องโทษจากความบกพร่องที่เกิดขึ้นตามไปด้วย
ตอนแยกของเหยื่อยังมีตอนที่น่าดึงดูดในตอน 6 เป็นเหยื่อชายหนุ่มผิวดำที่เป็นใบ้ ชื่อตอน Silenced ที่บอกให้เห็นมุมมองว่าในความเป็นจริงแล้วดาห์เมอร์ฆ่าเหยื่อแล้วก็รับประทานเพราะอะไร เป็นตอนที่เหยื่อที่ชื่อโทนี่เป็นชายหนุ่มหล่อนายแบบผิวดำที่นิสัยดี มอบความรักให้แก่ดาห์เมอร์อย่างจริงใจ ตัวดาห์เมอร์เองก็ข่มใจไม่ฆ่าเขาบ่อยมาก แต่ว่าท้ายที่สุดก็ทนความรู้สึกว่าจะสูญเสียเขาไปมิได้ การฆ่าเหยื่อแล้วรับประทานลงไปต่างประเทศจากเร้าอารมณ์ทางเพศแล้ว อีกนับหนึ่งก็ราวกับการเก็บเขาไว้กับตัวตลอดกาล ซึ่งเหยื่อรายแรกที่ดาห์เมอร์ฆ่าก็เช่นเดียวกัน เขาป่นกระดูกแล้วโรยฝังไว้บริเวณบ้าน เพื่อมีความรู้สึกว่าเขายังอยู่ใกล้ๆเสมอ
The Power Of The Dog
เรื่องราวทั้งผองเริ่มในปี คริสต์ศักราช1925 ที่ไร่แห่งหนึ่งในเมืองมอทานา ผู้ครอบครองไร่ 2 ญาติพี่น้อง Burbank ที่นิสัยไม่เหมือนกันเต็มที่ คนพี่เป็น Phill Burbank (Benedict Cumberbatch จาก Dr.Strange) นิสัยห่าม ขวางโลก อีเก๋จัด ถูกใจกดขี่บุคคลอื่น และก็โสมม ส่วนคนน้องเป็น George Burbank (Jesse Plemons จาก Breaking Bad) ที่มีนิสัยยอมคน นอบน้อม สะอาดหมดจด แต่งตัวดี ใจดี แล้วก็ใจเย็น ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเริ่มขึ้นเมื่อ George คนน้อง ได้ไปพบรักกับหญิงม่ายลูกติด Rose (Kirsten Dunst จาก Spider-Man)
แล้วก็ลูกคุณ Peter (Kodi Smit-McPhee จาก X-Men) Rose เป็นเจ้าของห้องอาหารที่อยู่ในระแวกนั้น เว็บพนัน bet ก็เลยตกลงใจสมรสกัน พร้อมทั้งเชิญชวนคุณและก็ลูกมาอยู่ร่วมกันกับเขา ซึ่งมีฟิลพี่ชายของเขาอาศัยอยู่ด้วย และก็ดูเหมือนฟิลจะไม่สบอารมณ์และไม่ถูกใจแม่ลูกคู่นี้ จนกระทั่งฟิลได้เริ่มกระทำกดขี่ข่มเหงและก็รุกรามสองแม่ลูก ในที่สุดแล้วจะจบยังไง ไปดูได้ทาง Netflix มีบรรยายไทยด้วย ผู้ใดยังไม่มองรีบไปดูก่อนค่อยมาอ่านต่อ ส่วนผู้ที่มองจบแล้ว งงงวยที่ไหนก็มาอ่านเนื้อหานี้ได้เลย เพราะว่าหนังมันค่อนข้างจะมีเนื้อหามากมาย แต่ว่าเรื่องราวมองง่ายมิได้ยากขนาดนั้น
แคมเปียนเขียนบทดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากนิยายชื่อเดียวกันของ โธมัส ซาเวจ (Thomas Savage) พื้นข้างหลังเป็นปี 1925 ในฟาร์มปศุศัตว์ของเมืองมอนทานา ที่มีพี่ชาย ฟิล (คัมเบอร์กางตช์) และก็น้องชาย จอร์จ (เจสซี พลีมอนส์ – Jesse Plemons) สองญาติพี่น้องที่มีนิสัยแตกต่างอย่างเต็มที่ ฟิลเป็นคนเจ้าอารมณ์ ถูกใจพูดจาถากถาง แล้วก็วางโตครั้งยิ่งใหญ่อยู่เสมอเวลา ในช่วงเวลาที่จอร์จเป็นคนพูดน้อย อยู่เฉย สุภาพเรียบร้อย จุดแปลงสำคัญเกิดขึ้นเมื่อจอร์จตกลงใจสมรสกับโรส (เคียร์สเต็น ดันสต์ Kirsten Dunst) แม่หม้ายที่สามีฆ่าตัวตาย ที่เมื่อคุณย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน ก็แปลงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฟิล
งานสร้างและก็วิสัยทัศน์สำหรับเพื่อการถ่ายทอดหนังหัวข้อนี้ของ เจน แคมเปียน ดูซีรี่ย์ netflix ยังทำออกมาได้น่าทึ่ง เห็นได้ชัดว่าคุณเอาใจใส่ในแทบทุกๆเนื้อหาของเนื้อหนัง กระทั่งฝุ่นผงบางๆลอยผ่านกล้องถ่ายรูปก็ยังสัมผัสได้ถึงความตั้งใจอย่างดีเยี่ยม มุมภาพของหนังประเด็นนี้ออกจะดียอด ยกฐานะรวมทั้งโทนของหนังดราม่าขึ้นได้อีกเป็นกอง ถึงแม้ว่าหนังจะซ่อนเร้นใจความสำคัญให้ขบคิดพินิจพิจารณาตามไปบ้างสักนิดสักหน่อย แต่ว่าก็ไม่ใช่หนังที่จะต้องมานั่งตีปัญหาให้ปวดศีรษะอะไร
ด้วยความยาวสองชั่วโมงเต็ม ‘มิได้เดินเรื่องด้วยพล็อตที่หวือหวา แต่ว่าเดินเรื่องด้วยวิวัฒนาการและก็ความเกี่ยวพันของผู้แสดงทั้งยังสี่คน โทนหนังเป็นดราม่าเข้มข้นที่มองนิ่ง เย็นเยือก แต่มีพลังในทุกฉาก จนถึงฉากไคลแม็กซ์ก็ยังพรีเซ็นท์ออกมาแบบไม่บีบบังคับ สอดคล้องกับบรรยากาศธรรมชาติแบบต่างจังหวัดของหนังที่มีเพียงแค่เทือกเขา ท้องทุ่ง แม่น้ำ ม้า โค แล้วก็หมา ซึ่งเมื่อผ่านการควบคุมภาพของอารี เวกเนอร์ (Ari Wegner) ก็แปลงเป็นงานศิลปะชั้นยอด ภาพงามประทับใจทุกฉาก เวลาเดียวกันก็หลบซ่อนความหมายแฝงไว้อยู่บ่อย
คล้ายกับ ‘The Piano’ ที่แคมเปียนใช้แนวทางใส่สัญญะเอาไว้ภายในการควบคุมภาพด้วยเหมือนกัน เมื่อบวกกับดนตรีประกอบของจอนนี กรีนวูด (มือกีตาร์จาก Radiohead) ที่เน้นย้ำการใช้งานเครื่องสายที่สร้างความระทึกใจแล้วก็ว้าวุ่นใจได้ไปพร้อม ที่สำคัญเป็นมาแบบน้อยๆไม่เปิดเผย แม้กระนั้นมาถูกจังหวะทุกหนหัวข้อในหนังมีการเอ๋ยถึงการยินยอมรับเพศหนทางในยุคนั้น
แม้กระนั้นก็มิได้แปลความหมายออกมาราวกับ ดูซีรี่ย์ netflix ‘Brokeback Mountain’ ของอั้งลี่ (Ang Lee) ที่มีตัวละครแล้วก็เบื้องหลังคล้ายกัน แต่ว่า ‘The Power of the Dog’ มีสารที่กว้างกว่าเรื่องรักร่วมเพศ แม้กระนั้นยังเอ่ยถึงการค้นหาและก็สารภาพตัวเอง การไม่ปล่อยวางจากสมัยก่อน รวมถึงความหมายที่จริงจริงของผู้ชายเพศ โดยสะท้อนออกมาให้ผู้ชมมองเห็นแบบลางเลือน หลายเงื่อนในเรื่อง (และก็เงื่อนสำคัญในตอนสุดท้าย) ผิดคลี่คลาย ปลดปล่อยให้ผู้ชมได้นำไปคิดต่อเอาเอง แต่ว่าก็ไม่ใช่หนังที่มองยากหรือจำเป็นต้องอาศัยกรรมวิธีทางความนึกคิดอะไร
